คนเขมรไหว้ท่วมหัว ปิดด่านกระทบหนัก ขอรัฐบาล 2 ชาติ สงสารประชาชน
คนเขมรไหว้ท่วมหัว ขอสมเด็จฮุน เซน -ฮุน มาเนต เปิดด่าน หลังกระทบหนักไม่สามารถเข้า-ออกได้ อ้อนรัฐบาล 2 ชาติ สงสารประชาชน
วันที่ 25 มิ.ย. 68 บรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าจุดผ่านแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่า มีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นแรงงานที่เดินทางจาก จ.สมุทรสาคร จ.นครราชสีมา และผู้ป่วยที่เข้ามาทำการรักษาฝั่งไทย รวมถึงคนที่ต้องการข้ามกลับไปบอเดอร์พาส (Border Pass) ได้มาปักหลักที่บริเวณหน้าด่าน เพื่อต้องการเดินทางกลับไปยังประเทศกัมพูชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยนางเฮง เซยลา ชาวกัมพูชา อายุ 60 ปี กล่าวว่า ปกติตนอาศัยที่ อ.อรัญประเทศ เนื่องจากมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ปกติตนจะต้องการเดินทางกลับกัมพูชา เพื่อต่อ Border Pass ตลอดเมื่อครบกำหนดเวลา โดยหลังจากสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้รับแจ้งว่าให้รอฟังข่าว เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งการผ่อนปรนให้ผ่านแดน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของ 2 ประเทศ ตนรู้สึกเสียใจมาก ในฐานะประชาชนไม่อยากให้ทะเลาะกัน และส่วนตัวอยากให้ดีต่อกัน เพราะมองว่าทั้ง 2 ชาติเหมือนเป็นญาติกัน
พร้อมกันนี้นางเฮง เซยลา ได้ยกมือไหว้ท่วมหัว วิงวอนไปยัง สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอให้เปิดด่าน และขอให้มีความรู้สึกต่อคนไทย เพราะที่ผ่านมาเขาดีกับเรามาโดยตลอด ไม่เคยมีอะไรกับกัมพูชา ตนพูดด้วยใจจริง เนื่องจากตนอยู่ไทยมานานมาก คนไทยมีน้ำใจที่ดีที่สุดในโลก ส่วนการกระทำของฝ่ายกัมพูชาตนไม่สามารถพูดหรือให้ความเห็นได้ หากข้ามไปที่ฝั่งกัมพูชาจะพบว่าของใช้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของไทยทั้งหมด หากฝ่ายไทยปิดด่านแล้วชาวกัมพูชาจะกินอะไร ทั้งนี้คนเขมรไม่ชอบสิ่งของที่มาจากประเทศจีนหรือประเทศเวียดนาม แต่ชอบของคนไทยมากกว่าเพราะทำถูกต้องทำสะอาด และไม่มีสารเคมี หากดูที่กรุงพนมเปญ จะพบว่าสิ่งของทุกอย่างมาจากไทยล้วน ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน อย่างไรก็ตามยังขอวิงวอนให้นายกรัฐมนตรีไทยใจเย็น และอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างใจเย็น และถอยคนละก้าวสถานการณ์อาจจะดีขึ้น
นอกจากนี้คนกัมพูชา ยังให้ข้อมูลด้วยว่า ได้เดินทางมาจาก กทม. เพื่อกลับไปต่อวีซ่า ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับวันละ 500 บาท พร้อมเล่าด้วยว่า ได้เดินทางกลับมาพร้อมคนเขมรที่เข้ามารักษาอาการป่วยด้วยโรคหัวใจ และนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ตามการนัดหมายของแพทย์ รพ.รามา นอกจากนี้วันที่ 7 ก.ค. ก็ต้องเดินทางมาตรวจตามแพทย์นัดอีกครั้ง ทั้งนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา ระบุว่า หากเป็นคนป่วยที่มีรถของโรงพยาบาลมาส่งหรือติดเตียง จะสามารถให้ผ่านได้ แต่หากเป็นกรณีเข้ามารักษาอาจปกติจะไม่สามารถให้ผ่านได้ นอกจากนี้ยังมีการให้เตรียมหาที่พักในฝั่งไทยประมาณ 2-3 วัน เพื่อรอดูสถานการณ์ ซึ่งมาตรการที่เกิดขึ้นนี้ส่วนตัวมองว่ากระทบ แต่ก็ต้องทำใจ พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธความเห็นสำหรับมาตรการที่เกิดขึ้นจากฝั่งกัมพูชาและรัฐบาลไทย
Advertisement
