หลังลี้ภัยในต่างแดนนานร่วม 7 ปี คดีอันโด่งดัง "เงินทอนวัด" วันนี้ อดีต "พระพรหมเมธี" หรือที่รู้จักในชื่อ "พระจำนง" ในวัย 84 ปี เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว เพื่อสู้คดีความผิดฐาน "ร่วมกันฟอกเงิน" ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
สำหรับ อดีตพระพรหมเมธี หรือ พระจำนงค์ ธมฺมจารี ชื่อเดิม คือ "จำนงค์ เอี่ยมอินทรา" เกิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484 ที่บ้านริมน้ำนครชัยศรี ปากคลองบางระทึก ต.บางระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่ออายุ 11 ขวบได้บรรพชาที่วัดราษฎร์บำรุง เขตบางแค กรุงเทพฯ มี พระครูวิศาลปริยัติคุณ (งาม จันทเทโว) วัดสามัคคยาราม จ.ปทุมธานี เป็นพระอุปัชฌาย์
กระทั่งอายุ 20 ปีได้อุปสมบท ที่วัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ มีพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์สมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระเทพปัญญามุนี เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระเนกขัมมมุนี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ธมฺมจารี มีความหมายว่า ผู้ประพฤติธรรม
ถูกปลดพ้นตำแหน่ง
วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาให้ปลดพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม พ้นจากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด
ถูกถอดสมณศักดิ์
วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 มีพระราชโองการ ประกาศให้ถอดสมณศักดิ์พระสงฆ์ 7 รูป เพราะถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตและถูกดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งอดีตพระพรหมเมธี เป็น 1 ใน 7 รายชื่อที่ถูกถอดสมณศักดิ์ จากพระพรหมเมธี กลายเป็นพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา
งานด้านปกครอง
อดีตพระพรหมเมธี เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์, เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม, เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ, เป็นเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ฝ่ายธรรมยุต)
สมณศักดิ์
พ.ศ. 2509 พระครูสังฆบริหาร ฐานานุกรมในพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก)
พ.ศ. 2513 พระครูปลัด ฐานานุกรมในพระเทพปัญญามุนี (เฉย ยโส)
พ.ศ. 2519 พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอกที่ พระครูวิบูลศีลวงศ์
พ.ศ. 2524 พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม
พ.ศ. 2528 พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระวิบูลธรรมาภรณ์
พ.ศ. 2535 พระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชธรรมาภรณ์ สุนทรกิจสาธิต ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ. 2539 พระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัชมงคลเวที ญาณวาทีธรรมวินิต วิศิษฐกาญจนาภิเษกสาทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ. 2544 พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมกิตติเมธี ศรีปริยัติโสภณ วิมลสีลาจารวราภรณ์ สุนทรอรรถสาธิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ. 2553 พระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระพรหมเมธี สีลาจารวัตรวิมล โสภณปริยัติดิลก สาธกธรรมวิจิตร พิพิธศาสนกิจจาทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ. 2561 โปรดเกล้าฯ ถอดสมณศักดิ์
การเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตพระพรหมเมธีครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561 และได้ลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ตามกระบวนการต้องถูกควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสอบปากคำและต่อสู้คดีตามกฎหมาย
Advertisement