Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"รณณรงค์" ชี้ หากเขมรฟ้องศาลโลก ไทยไม่ยอมรับจะเกิดภาพเลวร้ายในสายตาโลก

"รณณรงค์" ชี้ หากเขมรฟ้องศาลโลก ไทยไม่ยอมรับจะเกิดภาพเลวร้ายในสายตาโลก

3 มิ.ย. 68
15:59 น.
แชร์

"ทนายรณณรงค์" ชี้ หากเขมรฟ้องศาลโลก แม้ไทยไม่ยอมรับ จะเกิดภาพเลวร้ายในสายตาชาวโลก ชื่นชมทหารปกป้องดินแดน เชื่อไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกปลดแม่ทัพภาคที่ 2

(3 มิ.ย. 2568) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ให้สัมภาษณ์อมรินทร์ ออนไลน์ ถึงประเด็นความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้บานปลาย ย้อนกลับไปถึงการปะทะกันที่บริเวณช่องบก ซึ่งไม่ชัดเจนว่าทหารไทยเป็นคนทำ มีแต่ฝั่งกัมพูชาที่อ้างว่าฝั่งทหารไทยทำ แล้วทหารไทยบอกไม่มีผู้เสียชีวิต หรือเป็นการยิงกันเองหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ยังไม่มีการสอบสวนร่วมกัน สำหรับความสำคัญในพื้นที่ช่องบก หากดูตามประวัติศาสตร์และกฎหมาย ก่อนกัมพูชาเป็นประเทศเขาคือส่วนหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งประเทศฝรั่งเศสมีการเข้ายึดครองและมีการแบ่งพื้น โดยหลังจากฝรั่งเศสคืนเอกราช มีการทำแผนที่ขึ้นหนึ่งฉบับแบ่งระหว่างไทยกับกัมพูชา การที่กองทัพบกบอกว่าทุกที่เป็นของไทยไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากในอดีตเราเคยถูกเอาไปแต่ไม่ใช่ว่าเราจะพยายามยึดคืนกลับมา ขณะที่ทางกัมพูชาพยามอ้างว่าเป็นของเขา

ขณะเดียวกันการใช้กลไกทางกฎหมาย ซึ่งมีการเจรจาทวิภาคีในการปักปันเขตแดน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นหน้าที่ของรัฐสภา และครั้งหนึ่งมีการให้อำนาจรัฐมนตรีบางกระทรวงมากเกินไป และมีการไปรับรับรองเอกสารเกี่ยวกับดินแดนโดยไม่ผ่านรัฐสภา ส่วนปัจจุบันหากเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ทหารไทยได้รับการจัดสรรงบกระทรวงกลาโหมต่อปีเกือบ 2 แสนล้าน ขณะที่กัมพูชาต่อปี 2 หมื่นล้าน เมื่อเกิดเหตุปะทะกัน ถ้ากองทัพไทยเอาจริงจะเกิดความสูญเสียเพียงแค่หนึ่งหรือไม่ ซึ่งตนแปลกใจจากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและบิดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บอกจะชวนทั้ง 2 ชาติมาร่วมเตะตะกร้อกัน ซึ่งหากแก้ปัญหาชายแดนได้งบประมาณกะลาโหมไม่ควรจ่ายสูงถึงหลัก 2 แสนล้านบาท ดังนั้นหากวัดด้านศักยภาพกองทัพไทยยังไงก็เหนือกว่าของกัมพูชา

"หลังเกิดเหตุทางผู้นำกัมพูชามีการปลุกระดมเหมือนว่าไทยจะไปแย่งดินแดน ขณะที่ฝั่งไทยรัฐบาลไทยกลับนิ่งเงียบ หากเรื่องนี้เข้าสู่ศาลโลกตามที่กัมพูชาต้องการ จะมีการนำหลักฐานว่ารัฐบาลไทยนิ่งเฉย ซึ่งอาจแสดงได้ว่าเป็นการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา และหากไปถึงขั้นนั้นตามเกมที่กัมพูชาวางไว้ เราอาจจะแพ้อีกครั้ง ส่วนที่ไทยไม่ได้เป็นภาคีของศาลโลกนั้น อาจจะไม่ยอมรับคำตัดสิน แต่ไม่ได้แปลว่าตัดสินออกมาแล้วจะไม่มีผล เพราะจะมีผลต่อสายตาของประเทศอื่นที่มองมาว่าเป็นพื้นที่ของใคร เมื่อมีคนกลางตัดสินว่าเป็นของกัมพูชา แล้วไทยไม่ยอมรับ ภาพในสายตาชาวโลกก็จะดูเลวร้าย ส่วนที่ สมเด็จฮุน เซน ออกมาพูดว่าอาจจะกลายเป็นเหมือนฉนวน กาซ่า เพราะคำตัดสินศาลโลก มีผลผูกพันกับประเทศอื่น ซึ่งจะกลายเป็นการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งไทยค่อนข้างเสียเปรียบ ทั้งนี้เราควรเอาใจช่วยทหารที่หวงแหนแผ่นดินบ้านเกิด และต้องถามว่าฝ่ายการเมืองนั้นมองเป็นผลประโยชน์ของใคร เป็นของบุคคลหรือเป็นของประชาชน อย่าใช้แต่ปากบอกว่ารักชาติแต่ควรแสดงให้พวกเราเห็นด้วย ซึ่งเรายืนยันว่าไม่อยากลงถนนอีกรอบ และไม่ใช่การข่มขู่แต่อย่างใด"

นายรณณรงค์ ยังระบุว่า ตนชอบทหารมากที่ออกมาปกป้องแผ่นดินโดยไม่ต้องมีใครบอก ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกรัฐมนตรี ควรมีความชัดเจนเรื่องพื้นที่ชายแดน ภาพที่ปรากฏถึงสายสัมพันธ์แนบแน่นของตระกูลกับผู้นำกัมพูชา ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ภาพรวมเรื่องของพี่น้องประชาชนคนไทย มีการพูดว่าพื้นที่ช่องบกไม่เยอะแต่ได้ถามความเห็นของประชาชนหรือยังซึ่งต่อให้เป็นพื้นที่เท่าแมวดิ้นตายก็ต้องนำกลับมาเป็นของเรา ไม่ใช่บอกเป็นพื้นที่ทับ

ส่วนท่าทีของรัฐบาลไทย ที่อาจจะนิ่งเงียบจนเกินไป นายรณณรงค์ กล่าวว่า หากมองรัฐบาลเพื่อไทยในวันนี้อาจจะไม่เห็นจิ๊กซอว์ แต่หากมองย้อนกลับไป 10 ปี เหตุการณ์กระทบกระทั่งชายแดนจนนำมาสู่ข้อพิพาท เหตุใดจึงเกิดในช่วงรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหาร และหากคนใดคนหนึ่งในรัฐบาลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สนับสนุนให้มีการทำให้ไทยเสียอธิปไตยหรือดินแดน ถือเป็นสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง นายกรัฐมนตรีอาจจะหลุดจากตำแหน่ง ซึ่งหากท่าทีของรัฐบาลออกมาในทางที่ไม่เป็นคุณต่อแผ่นดินไทยตนเชื่อว่าในอนาคตจะมีการไปยื่นเรื่องร้องเรียน

เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลมีกลไกการเจรจา JBC และการยึดตาม MOU 2543 ก็ถือว่ามีจุดยืนปกป้องอธิปไตยไทย นายรณณรงค์ กล่าวว่า แค่นี้ยังคงไม่พอ หากจุดที่เกิดการปะทะ MOU 2543 หรือข้อตกลงทวิภาคีใช้ได้ผลจริงต้องเกิดเหตุขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือนเราอยู่ในบ้านแต่อีกฝั่งกลับเข้ามาและใช้ไม้ตีหัวจากนั้นก็จากไป ซึ่งใครเป็นคนผิด และพบว่าคนที่ผิดจะนำเรื่องไปฟ้องศาลโลก ซึ่งมองว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์แต่จะนำกลไกกฎหมายระหว่างประเทศมาบีบไทย เนื่องจากเขาไม่สามารถสู้ได้โดยกองกำลังทหาร จึงใช้เวทีโลกในการกดดัน ซึ่งกองทัพไทยคือแต้มต่อ ตนตนมองว่ามีแสนยานุภาพสูงกว่าของกัมพูชา หากรัฐบาลไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ปล่อยให้กองทัพดำเนินการซึ่งเชื่อว่าไทยจะไม่สูญเสียดินแดนอย่างแน่นอน

ส่วความเห็นที่แตกต่างกัน และรมว.กลาโหม ยืนยันเจรตาสันตืวิธี สู้รบเป็นเรื่องสุดท้าย นายรณณรงค์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นไปในทิศทางใด ต้องถามว่าอยากรักษาแผ่นดินไทยหรือไม่ หากต้องการรักษาของดีที่มีในมือเหตุใดจึงไม่ใช้ เช่น กองทัพ ซึ่งหากอยากเป็นพ่อพระงบประมาณกลาโหม 2 แสนล้านก็ไม่ควรได้รับ นอกจากนี้เมื่อเกิดเหตุปะทะเราควรมีการแสดงออกทั้งการแซงก์ชัน การคว่ำบาตร พร้อมย้ำว่ากองทัพเรามีความเหนือกว่า แต่ภาพที่เห็นวันนี้เรากลัวคนที่เล็กกว่าเรา

ซึ่งถามว่ารัฐบาลตัดสินใจบนพื้นฐานอะไร การเจรจาแบบพ่อค้า หรือการเจรจาเพื่อปกป้องแผ่นดิน โดยไม่สนผลประโยชน์อะไร ต้องถามว่ามีผลประโยชน์ที่กัมพูชาหรือไม่จึงไม่สามารถดำเนินการปิดด่าน จนทำให้แม่ทัพภาค 2 ต้ิงออกมาสื่อสารเอง ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าจะมีการปลดแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น ตนเชื่อว่าไม่ปลด และไม่เคยเห็นรัฐบาลพลเรือนปลดทหารได้ ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ทีาปลด ผบ.ทบ. หลังจากนั้นถูกทำรัฐประหาร ซึ่งพรรคเพื่อไทยเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และการเปลี่ยนม้ากลางศึกในภาวะสงครามไม่มีใครทำกัน และที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นคุณออกมาปกป้องทหาร แต่ครั้งนี้จะเห็นหากมีการปลดออกจริง

หลายคนมีความกังวลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะซ้ำรอยกับเหตุการณ์เขาเพราะวิหาร นายรณณรงค์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าอาจจะเกิด ไม่เช่นนั้นคงไม่มีมีการออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งช่องบกเปรียบเสมือนหลักหมุดชายแดน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่เหตุปะทะแต่เป็นอำนาจอธิปไตย

"ทั้งนี้ตนอยากสื่อสารไปยังรัฐบาล ให้ดูว่าประเทศไทยยอมได้ทุกอย่างแต่ไม่ใช่การเสียแผ่นดิน รัฐบาลต้องมีทีท่าที่ขึงขังชัดเจน คุณอาจไม่ได้เป็นทหารแต่สามารถแสดงออกถึงความรักชาติรักแผ่นดินได้ ทำให้ดูทำให้เข้าใจว่าการบริหารประเทศ จะไม่ซ้ำรอยเหมือนกรณีประสาทเขาพระวิหาร"

ส่วนกระแสเรียกร้องให้เกิดการปฎิวัติรัฐประหาร มองว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายรณณรงค์ กล่าวว่า บอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลก เราตามปกติเมื่อทหารจะมาปฏิวัติรัฐประหาร ประชาชนจะปกป้องรัฐบาล แต่รอบนี้ประชาชนกลับไปปกป้องกองทัพ ยิ่งมีคนปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงว่าจะปลดแม่ทัพภาคที่ 2 กลายเป็นว่ากระแสชาตินิยม ที่หลายคนวิ่งไปหาให้เกิดการรัฐประหาร เพื่อให้กองทัพปกป้องชายแดน เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลไทยไม่มีมาตรการตอบโต้กัมพูชา ดูอย่างกรณีการแถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เหมือนเบรคทหาร ซึ่งประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิวัติจากเรื่องนี้ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากและไม่เคยเกิดขึ้น

ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนตัวเองว่าประชาชนที่เคยอยู่เคียงข้าง เมื่อเกิดเหตุนี้จึงเรียกร้องให้มีการปฏิวัติ ซึ่งต้องดูตัวเองว่าทำอะไรที่ไม่ดีต่อประเทศชาติหรือไม่ อย่าบอกเพียงแค่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอารมณ์ แต่เป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ต่อให้เป็นที่เท่าแมวดิ้นตาย รมว.กลาโหม ก็ต้องสู้ ส่วนจะสาทารถนำไปสู่การรรัฐประหารและกองทัพจะเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น ตนมองว่าหากท่าทีของรัฐบาล หลังจากโดนทัวร์ของคนในชาติ ไม่แผ่วลงและพยามทำอะไรที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนตนเชื่อว่าทหารเอาแน่ แล้วจะเกิดการปฏิวัติที่คนไม่แอนตี้ ถามย้ำว่าเรื่องของดินแดนจะสามารถปลุกติดใช่หรือไม่นั้น ตอนนี้เครื่องติดแล้วแต่ยังไม่ลงถนน ไม่ยอมให้ใครมาเอาบ้านของเราไป เชื่อว่าคนไทยทุกคนคิดแบบนี้แม้แต่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยยังด่านายกรัฐมนตรีของตัวเอง ที่เคยออกมาปกป้องเมื่อจะเกิดรัฐประหารเขาจะไม่เอาด้วยเมื่อมีการปล่อยให้แผ่นดินเสียไป

Advertisement

แชร์
"รณณรงค์" ชี้ หากเขมรฟ้องศาลโลก ไทยไม่ยอมรับจะเกิดภาพเลวร้ายในสายตาโลก