ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก "Sirawich Intharathat" ได้โพสต์ภาพเด็กนักเรียนโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา กำลังทำ CPR ปั๊มหัวใจเด็กนักเรียนในโรงเรียน หลังจากที่มีอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังได้ระบุว่า "วันที่19 พ.ค. 68 เวลา 09:20 น. เวลาโดยประมาณ รับแจ้งจากอาสาไปรท์ที่เป็นอาสาสมัครฮุก31 จุดไชยมงคลและอาสาปุณ, อาสากล้าว่าที่โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ มีนักเรียนหมดสติไม่หายใจที่ห้องพยาบาล น้องกำลังทำการ CPR และให้อาจารย์แจ้ง 1669 ผมจึงได้นำ "AED100" เข้าไปสนับสนุนที่เกิดเหตุพร้อมกับรถ รพ.ค่ายสุรนารี ต้องขอขอบคุณอาสาทั้ง 3 นาย และคณะแพทย์ รพ.ค่ายสุรนารี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีครับน้องที่ประสบเหตุอยู่เพียงแค่ชั้น ม.3 และน้องอาสาอายุเพียงแค่ 14-15 ปี เท่านั้น สื่อนี้ลงเพียงเพื่อสื่อให้เห็นความสำคัญของการ CPR และการมีเครื่อง AED ในพื้นที่ต่างๆ เพียงเท่านั้นครับ" ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมเด็กนักเรียนในภาพดังกล่าวกันอย่างมากมาย
ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้พบกับเด็กนักเรียนคนดังกล่าวในภาพ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วไม่ใช่นักเรียนเพียงคนเดียวที่ทำ CPR ยังมีเด็กนักเรียนอีก 2 คน ที่ได้ผลัดกันปั๊มหัวใจพร้อมกับอาจารย์ประจำห้องพยาบาล โดยเด็กนักเรียนทั้ง 3 คนที่เข้าช่วยเหลือในครั้งนี้ ได้แก่ นายกิตติภพ ค่ายใส ชั้น ม.4/8, นายรัฐภูมิ ขจรสาธิต ชั้น ม.6/8 และ นายจิรภัทร ศรีสว่าง ชั้น ม.3/9 ซึ่งน้องนักเรียนทั้ง 3 คนดังกล่าวนั้น มีประสบการณ์ในการทำ CPR เนื่องจากทั้ง 3 คนนั้นเป็นอาสาสมัครกู้ภัยของทางมูลนิธิฮุก31 นครราชสีมา ซึ่งเป็นหน่วยกู้ภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอยู่แล้ว โดยนายกิตติภพฯและนายจริภัทรฯนั้นเป็นอาสากู้ภัยฮุก31 นครราชสีมาจุดบริการไชยมงคล ส่วนนายรัฐภูมิฯนั้นเป็นอาสากู้ภัยฮุก31 จุดโพธิ์กลาง ซึ่งทั้ง 3 คนนั้นได้มีประสบการในการอบรมการทำ CPR จากทางมูลนิธิและทางโรงเรียนอยู่แล้ว
โดย นายจริภัทร เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์กับอาจารย์ที่ปรึกษาของนักเรียนที่หมดสติ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้วทางครูก็ได้มาตามอาจารย์ที่ปรึกษาให้ไปดู ซึ่งตนก็ได้วิ่งตามไปด้วยพอดีเห็นครูประจำห้องพยาบาลกำลังปั๊มหัวใจให้กับนักเรียนที่หมดสติอยู่ตนจึงได้เข้าไปช่วย ซึ่งอาการของน้องคนที่หมดสตินั้นตนที่ไปถึงนอนแน่นิ่งไปแล้วตัวเริ่มเย็นทางครูประจำห้องพยาบาล จึงได้ให้ตนนั้นไปนำถังอ็อกซิเจนที่อยู่ในห้องมาคอยให้อ็อกซิเจนกับน้องที่หมดสติ โดยในระหว่างนั้นก็ได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่และแจ้งโรงพยาบาลให้มาช่วยเหลือ โดยในระหว่างนั้นตนกับเพื่อนๆ และอาจารย์ประจำห้องพยาบาลก็พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจน้องอยู่ตลอดเวลาโดยสลับกันปั๊มวนกันไปจนเจ้าหน้าที่มาถึงและรับตัวน้องไปรักษาที่โรงพยาลบาล โดยก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้นทางน้องนั้นก็กลับมีลมหายใจขึ้นมาแล้ว ทำให้ตนรู้สึกดีใจแล้วก็ภูมิใจมากที่ได้ใช้ความรู้ที่อบรมมาช่วยชีวิตคนในครั้งนี้
ขณะเดียวกันทาง นายสราวุฒิ แช่มเมืองปัก ผอ.โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงก่อนเริ่มการทำการเรียนการสอนเด็กนักเรียนที่หมดสตินั้นก็เข้าห้องเรียนตามปกติ สักครู่เด็กนักเรียนคนดังกล่าวนั้นตัวค่อยๆ ไหลลงจากเก้าอี้ก่อนที่จะหมดสติและหยุดหายใจอาจารย์ที่ปรึกษากับเด็กกลุ่มที่เป็นอาสากู้ภัยก็ได้รีบเข้าไปช่วยทำ CPR พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลให้เข้ามารับตัว อย่างไรก็ตามในฐานะ ผอ. ตนขอชื่นชมเด็กๆกลุ่มนี้ที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กคนที่หมดสติ ซึ่งถือว่าโชคดีที่เด็กๆ กลุ่มนี้นั้นเคยผ่านการอบรมจากโรงเรียนและมีประสบการณ์จากการเป็นอาสากู้ภัย
ขณะที่ทางด้าน นายจตุรงค์ อินทรทัต หัวหน้าจุดบริการไชยมงคล มูลนิธิฮุก31 นครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่มเด็กนักเรียนที่ช่วยกันทำ CPR นั้นเป็นเด็กที่อยู่ในชุมชนใกล้กับจุดบริการอยู่แล้ว และมีความสนใจที่จะใช้เวลาว่างมาทำอาสากู้ภัยโดยเด็กกลุ่มนี้นั้นผ่านการฝึกอบรมจากทางมูลนิธิฯมาแล้วพร้อมกับเป็นผู้ช่วยเวลาเดินทางไปเป็นวิทยากรในการสอนทำ CPR ตามหน่วยงานต่างๆ อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการช่วยเหลือมาแล้วพอเกิดเหตุขึ้นจึงได้มีโอกาสที่จะใช้ความรู้ที่ได้อบรมมาไปใช้ในสถานการณ์จริง
อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นที่ผู้ป่วยจะต้องมีโรคประจำตัว อย่างน้องที่หมดสติไปนั้นก็ไม่มีโรคประจำตัวแต่ก็ยังเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันขึ้นได้ ซึ่งตนในฐานะกู้ภัยและเป็นวิทยากรในการอบรมการทำ CPR อยากให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนนั้นให้ความสำคัญกับการให้คนในองค์กรนั้นมีความรู้เรื่องการกู้ชีพเบื้องต้นหรือการทำ CPR และอยากให้สนับสนุนเครื่อง AED หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจเอาไว้อย่างน้อย 1 เครื่องในหน่วยงานก็จะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ทันท่วงที
Advertisement