จากกรณีที่ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ถูกดำเนินคดี ในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาทไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งล่าสุดได้ยอมลาสิกขาแล้วเมื่อคืนที่่ผ่านมา โดยทาง แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความรัวๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ และหลังจากที่ทราบข่าวว่า อดีตเจ้าคุณแย้มได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อคิด พร้อมบอกว่า "อย่าหาว่าฆราวาสสอนเลยนะคะ"
"อยากเป็นเพชรหรืออยากเป็นถ่าน ท่านเลือกเอา"
เรื่องของลุงแย้ม (ทราบว่าตอนนี้ยอมลาสิกขาแล้ว) ได้ให้แง่คิดอย่างดีเยี่ยมกับพระหลายๆ รูปเลยนะคะ โดยเฉพาะก็พระผู้ใหญ่ ที่ทุกวันนี้มุ่งเจริญแต่ในทางตำแหน่งและสมณศักดิ์ แต่สีลาจารวัตรหาเจริญตามด้วยไม่
พระพุทธเจ้าเปรียบพระประเภทนี้เหมือนโคถึก ที่จะเจริญก็แต่เพียงในทางเนื้อหนังมังสาเท่านั้น (แต่สติปัญญาไม่ได้เจริญด้วย)
ก็ขอให้ได้ถือเป็นทิฎฐานุคติ เครื่องเตือนใจกันเอาไว้นะคะแม้ว่าจะเป็นทิฏฐานุคติในทางที่ไม่ดีก็ตาม
ภิกษุในพระศาสนา มีแค่สองสิ่งที่เป็นเครื่องคุ้มกันรักษาได้ นั่นก็คือพระธรรมวินัย ภิกษุเป็นภิกษุก็เพราะพระธรรมวินัย ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่น หากปราศจากพระธรรมวินัยเสียแล้ว พระก็ไม่ต่างจากพรานใจทรามที่คลุมกายด้วยจีวรฆ่าช้าง ในพระธรรมบท
ลาภยศและของสักการะเป็นสิ่งเผ็ดแสบทารุณ พระพุทธเจ้าท่านเตือนไว้แล้วนะคะ หากพระมีอกุศลจิตหยิบฉวย ก็มีแต่จะพาให้ตัวซวย ทั้งกองศีลก็มัวหมองเป็นมลทิน
เงินเพียงห้ามาสกยังฆ่าพระใจโลภได้ นี่นับประสาอะไรกับเงิน 500 ล้าน จะไม่ฆ่าสมภารวัดไร่ขิง ไม่ฆ่าพระธรรมวชิรานุวัตร ที่เคยเป็นสังฆบดีของคณะสงฆ์ภาค 14
ภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก แม้ถูกประทุษร้ายจนตาย ก็ยังสามารถแช่มชื่นใจในความบริสุทธิ์แห่งศีลของตนเองได้ แต่ท่านที่มีเพียงลาภและยศนอกกาย ไฉนจะช่วยรักษาคุ้มภัยให้บริสุทธิ์ได้
ถ้าท่านทูนพระธรรมวินัยไว้เหนือหัว พระธรรมวินัยก็จะชูท่าน ดังแก้วมณีขาวอันมีค่ามหาศาล แต่ถ้าท่านทูนลาภยศไว้บนกบาล ลาภยศก็จะทำลายท่าน ให้เหมือนดั่งเถ้าถ่านไม่มีราคา
อย่าหาว่าฆราวาสสอนเลยนะคะ
Advertisement