หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละปี ด้วยความนิยมของสถานที่แห่งนี้กลับมาพร้อมกับปัญหาการทุจริตเชิงระบบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของอุทยานและความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ
โดยเฉพาะกรณีล่าสุดคณะทำงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดตรัง ชุดเฉพาะกิจติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ หรือ “ฉก.ฉลามอันดามัน” ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.2 (เกาะสิมิลัน)
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบความผิดปกติในการรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวและการจำหน่ายตั๋ว
จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ตรงกับตั๋วที่จำหน่าย
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า การตรวจสอบครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่เกาะสี่และเกาะแปด ซึ่งเป็นจุดเช็กอินหลักของนักท่องเที่ยว ผลการตรวจสอบเผยให้เห็นความผิดปกติอย่างชัดเจนในระบบจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Ticket
เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติ ไม่ตรงกับจำนวนตั๋วที่จำหน่าย จากข้อมูลอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยว ในรอบเดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 40,000 กว่าคนต่อเดือน ซึ่งในวันดังกล่าวมีการจำหน่ายตั๋วเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 500 คน แต่ข้อเท็จจริงจากการสังเกตการณ์พบว่า ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนมากเกือบ 100% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
นอกจากนี้จากการตรวจนับโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ยังพบข้อพิรุธใน จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ตรงกับระบบจำหน่ายตั๋วอุทยาน (E-Ticket) เช่น บางบริษัทจำหน่ายตั๋วนักท่องเที่ยวเพียงแค่ 5 คน แต่จำนวนนักท่องเที่ยวบนเรือกลับมีมากถึง 50 คน ขณะที่บริษัททัวร์บางแห่งซื้อตั๋วสำหรับชาวไทย 20 คน และชาวต่างชาติ 20 คน แต่เมื่อสำรวจพบว่าทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ และไม่มีคนไทยเลย
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการบางรายแจ้งการจองตั๋วในระบบสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่เกิน 10 คนต่อเรือ โดยจำหน่ายในราคาคนไทย ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท และเด็กคนละ 50 บาท แต่เมื่อถึงหน้างาน กลับพบว่านักท่องเที่ยวที่ลงจากเรือลำเดียวกันนั้นเป็นชาวต่างชาติถึง 50 คน
ทุจริต “ตั๋วผี” กินส่วนต่างค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานฯ กำหนดค่าธรรมเนียมเข้าชม ดังนี้
นักท่องเที่ยวชาวไทยเด็ก 50 บาท / ผู้ใหญ่ 100 บาท
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเด็ก 250 บาท / ผู้ใหญ่ 500 บาท
ทั้งนี้ราคาดังกล่าวไม่รวมอัตราค่าบริการในการนำยานพาหนะเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ
การใช้ช่องโหว่ในการจำหน่ายตั๋ว โดยแอบเปลี่ยนสถานะนักท่องเที่ยวจากต่างชาติมาเป็นคนไทย ทำให้มีส่วนต่างถึง 400 บาทต่อคน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจากที่ต้องจ่ายในอัตรา ผู้ใหญ่ 500 บาท จะจ่ายเพียง 100 บาทเท่านั้น
ซึ่งเงินจำนวนนี้ถูกนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หากนำไปคำนวณจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าอุทยานในแต่ละวัน ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรง รายได้ที่ภาครัฐควรได้รับจะสูญเสียไปอย่างมาก ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง
สั่งย้ายหัวหน้าอุทยานฯ เร่งสอบทุจริต
หลังจากการตรวจสอบนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีคำสั่งย้ายว่าที่ ร.อ.ฤทธิกรณ์ นุ่นลอย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันออกจากพื้นที่ โดยให้ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทันที
เบื้องต้นคณะทำงาน ป.ป.ช. ชุด ฉก.ฉลามอันดามัน ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานหรือเอกสารต่าง ๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากพบข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ ร่วมกับผู้ประกอบการจะมีการดำเนินการยกเหตุสงสัยว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น และจะดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
กรณี "ตั๋วผีสิมิลัน" เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้ประเทศไทยจะมีทรัพยากรธรรมชาติที่งดงามและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่หากขาดการบริหารจัดการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ความงดงามเหล่านั้นอาจถูกบดบังด้วยการทุจริต การแก้ไขปัญหาไม่ใช่แค่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงนักท่องเที่ยวเองที่ควรตระหนักและเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
Advertisement