Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เมีย ร้อง รมว.กลาโหม โดนผัวสิบโททำร้าย วอนเอาออกจากราชการ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เมีย ร้อง รมว.กลาโหม โดนผัวสิบโททำร้าย วอนเอาออกจากราชการ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

29 ต.ค. 67
11:56 น.
|
710
แชร์

ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พาเมียสิบโท ร้อง รมว.กลาโหม โดนทำร้าย เจ็บช้ำกายใจ แจ้งความแล้วคดีเงียบ ลั่นอยากให้ฝ่ายชายถูกออกจากราชการ พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

จากกรณี มีหญิงสาวรายหนึ่งได้ร้องเรียนมายัง “มูลนิธิเป็นหนึ่ง” ภายหลังถูกสามีทหารยศนายสิบทำร้ายร่างกาย ส่งผลให้ฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บ มิหนำซ้ำแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบ ด้านฝ่ายชายอ้างมีผู้ใหญ่หนุนหลังนั้น 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 67 ที่กระทรวงกลาโหม น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่งได้พา น.ส.ธิดาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีโดนสามีทหารยศนายสิบ สังกัดสำนักปลัดกลาโหมทำร้ายร่างกาย 

โดยมี พ.อ.ฐาปนา อุไรวรรณ หัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงกลาโหม และ พล.ท.ณัฐพล เกิดชูชื่น เจ้ากรมการเงินกลาโหมเป็นผู้รับเรื่อง 

น.ส.ธิดาภรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนอยู่กินกับ ส.ท.ธนชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นสามีมา 2 ปี โดยสามีของตนทำงานรับราชการเป็นทหาร ยศนายสิบ สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ตำแหน่งพลขับ ซึ่งในระหว่างที่ตนอยู่กินกับนายธนชัยก็ได้มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 1 ขวบ 30 วัน 

โดยก่อนที่สามีของตนจะรับราชการเป็นทหาร ตนยอมรับว่าพฤติกรรมของสามีไม่ใช่คนรุนแรงเช่นนี้ ทะเลาะกันทีไรก็ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน จนกระทั่งมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้ฝากสามีเข้ารับราชการทหาร และหลังจากที่ตนคลอดลูกชายได้ประมาณ 10 วัน พฤติกรรมของสามีก็เปลี่ยนไป คือเวลามีปากเสียงสามีก็มักจะทำร้ายร่างกาย โดยการตบตี บีบคอ จับหัวกระแทก บางครั้งถึงขั้นวิดีโอคอลทำร้ายร่างกายตนต่อหน้าต่อตาพี่สาวเขา จนเป็นเหตุทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ เส้นเลือดฝอยในตาแตก และปากแตก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ณ บ้านพักพนักงานของเสธ บริเวณซอยลาดพร้าว 130 โดยตนก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่า สามีของตนจะมีการโดนว่ากล่าวตักเตือนอะไร  

น.ส.ธิดาภรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตน และสามีได้ย้ายที่พักอาศัยไปอยู่แฟลตบ้านพักที่เมืองทองธานี เนื่องจากสามีได้ยายทำงานมาอยู่ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมศรีสมาน ในขณะที่ตนย้ายมาอยู่กับสามีนั้น ตนยอมรับว่าเวลามีปากเสียงทะเลาะกัน มักถูกสามีทำร้ายร่างกาย โดยการกระโดดทับท้อง ต่อยที่ศีรษะและใบหน้าอย่างรุนแรง ไม่ยั้งมือ ซึ่งปัญหาที่ทะเลาะกันส่วนมากมาจากเรื่องหึงหวง แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนไม่ได้มีการแจ้งความแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีการแจ้งความไปแล้วแต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่มีการดำเนินคดี 

โดยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ตนเคยทักไปบอกหัวหน้าสามีถึงพฤติกรรมของสามี และเดินทางร้องเรียนไปยังต้นสังกัดของสามี แต่หัวหน้าของสามีกลับบอกกับตนว่า ให้ขึ้นมาคุยกันก่อน พอตนขึ้นไปพบหัวหน้างานของสามี ตนจึงเห็นว่า ทางหัวหน้างานของสามีก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนสามีตน ก่อนจะมีการให้ทางสามีตนวิดพื้น 50 ที ซึ่งตนมองว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนถูกสามีทำร้ายร่างกายขนาดนี้ เหตุใดทางหัวหน้าของสามีจึงลงโทษแค่นี้ มิหนำซ้ำทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานยังพูดจาหัวเราะถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนตนเป็นตัวตลก จึงทำให้ตนรู้สึกว่ากฎระเบียบของทหารบทลงโทษของทหารที่ทำร้ายภรรยาตัวเองมีเพียงแค่นี้จริงหรือ 

น.ส.ธิดาภรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนยังอยู่กินกับสามีคนนี้นั้น เพราะว่าตนเคยผ่านการมีครอบครัว และมีลูกมาแล้ว ตนไม่อยากให้ลูกต้องขาดพ่อ อยากอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่เรามีปัญหาบั่นทอนกันมาเรื่อยๆ  โดยที่ผ่านมาตนยอมรับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตนและครอบครัวของสามีนั้นก็ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ เพราะเคยมีปัญหาเรื่องเงินกัน เนื่องจากที่ไปกู้หนี้นอกระบบมาใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งพี่สาวสามีเป็นคนแนะนำให้

ต่อมาตนได้ขาดส่งหนี จนกระทั่งวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ไปรอสามีอยู่ที่โต๊ะสนุ๊ก เนื่องจากพฤติกรรมของสามีเป็นคนชอบเล่นสนุ๊กเกอร์ผูกติดการพนัน ซึ่งในวันนั้นพี่สาวสามีได้พาเจ้าหนี้มาทำร้ายร่างกายตนต่อหน้าต่อตาสามี แต่สามีไม่ช่วยเหลืออะไรตนเองเลย และในวันเดียวกันตนได้ถูกสามีทำร้ายร่างกายอีกครั้ง เนื่องจากตนปลุกสามีขึ้นมาถามทางระหว่างที่ขับรถกลับบ้าน ซึ่งสามีก็ได้มีการทำร้ายร่างกายตนด้วยการเอาศอกมาแทงหน้า และแทงหน้าอกตน ก็จะมีการลงมือทำร้ายตบตีในขณะที่ลูก 1 ขวบนอนอยู่ในรถ 

ณ ตอนนั้นตนยอมรับว่าตกใจ และเริ่มเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามเปิดประตูรถ เพื่อที่จะลงจากรถ แต่กลับถูกฝ่ายชายกระชากตัวไว้ก่อนจะมีการตบตีอีกครั้งแบบไม่ยั้ง เหมือนไม่ใช่ผัวเมีย เหมือนไม่ใช่คนที่เคยรักกัน และด้วยความเจ็บปวดร่างกาย ณ ตอนนั้น ตนพยายามขอร้องสามีบอกให้พอ และให้เขาอุ้มลูกไป ก่อนที่ตนจะวิ่งลงมากลางทางบอกให้พลเมืองดีที่ขับรถพ่วงช่วยเหลือ 

ยืนยันได้ว่าการกระทำของสามีคนนี้ ตนเคยไปแจ้งความกับทางเจ้าที่ตำรวจหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นฝ่ายชายถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด มิหนำซ้ำต้นยังถูกฝ่ายชายพูดโอ้อวดว่า “กูเห็นมึงไปแจ้งความเป็น 10 ใบแล้วไม่เห็นใครจะทำอะไรกูได้” เขาพูดท้าทายทุกอย่าง  

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า เมื่อก่อนตนอยากรักษาครอบครัว แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ตนควรรักตัวเองและรักลูก อยากให้เขาได้รับสิ่งที่เขาทำกับผู้หญิงคนนึง เพราะตนไปร้องเรียนก็แล้วแจ้งความก็แล้วไม่มีอะไรคืบหน้าเลย จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกว่า ตนได้รับความเป็นธรรมอะไรเลย ตนเจ็บช้ำทั้งกายทั้งใจ ระบมไปหมด แต่ฝ่ายชายกลับไม่ได้รับโทษอะไรเลย ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ฝ่ายชายออกจากราชการ และจะยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

ขณะที่ พล.ท.ณัฐพล เกิดชูชื่น เจ้ากรมการเงินกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการต้นสังกัดของฝ่ายชายรับเรื่อง ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ธิดาภรณ์ (ผู้เสียหาย) ว่าหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาสอบสวนพฤติกรรมของฝ่ายชาย หากพบว่ามีความผิดจริงจะมีกันฝากขังตามกฎระเบียบของทหาร และจากการที่ผู้เสียหายได้มีการไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 2 คดี ในข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น หากสำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจบ่งบอกว่าเป็นคดีอาญาก็จะมีการสั่งปลดฝ่ายชายทันที และหลังจากนี้จะมีการพูดคุยหารือที่พักให้กับฝ่ายหญิง หลังจากที่ฝ่ายถูกฝ่ายชายไล่ออกจากบ้าน ซึ่งทางหน่วยงานจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

Advertisement

แชร์
เมีย ร้อง รมว.กลาโหม โดนผัวสิบโททำร้าย วอนเอาออกจากราชการ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด