เชียงใหม่อ่วม น้ำป่าหลากบ้านทรุดลงน้ำแม่ริมเพิ่มอีก 1 รวมแล้ว 8 หลัง
เชียงใหม่อ่วม น้ำป่าหลากไหลเชี่ยว ทำบ้านทรุดลงน้ำแม่ริมเพิ่มอีก 1 หลัง เสียหายรวม 8 หลัง เจ้าของบ้านผวาขอไม่กลับมาอยู่แล้ว
วันที่ 24 ก.ย.67 หลังจากเมื่อวานนี้ช่วงค่ำที่ผ่านมามีคลิปภาพ ขณะที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 8 บ้านทรายมูล ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ถูกน้ำแม่ริมที่รับน้ำป่าจากยอดดอยกัดเซาะตลิ่ง จนทำให้บ้านปูน 2 ชั้นที่อยู่ติดลำน้ำทรุดตัวพังลงไปในแม่น้ำ โชคดีที่ทีการแจ้งเตือนขนย้ายข้าวของออกมาได้บางส่วนและเจ้าของบ้านให้ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และทางอำเภอสั่งให้บ้านเรือนบริเวณดังกล่าวขนข้าวของและคนที่อยู่อาศัยในบ้านออกมาอยู่ในที่จุดที่ปลอดภัยและไม่เข้าไปอยู่อาศัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาช่วเวลาประมาณตี 2 บ้านหลังที่อยู่ถัดจากบ้านเลขที่ 8 ที่พังลงไปก่อนหน้านั้น ได้เกิดดินใต้ถุนบินทรุดตัวและทำให้ตัวบ้านพังลงไปในน้ำอีกหลังหนึ่ง ส่วนบ้านที่ถูกถัดไปอีกหลังก็เริ่มเกิดรอยร้าวและดินยังคงถูกกัดเซาะต่อเนื่อง
ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า น้ำป่าที่มาแรงขนาดนี้ไม่เคยพบเจอในรอบหลายสิบปีที่มาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ ถือว่าหนักที่สุดเท่าที่เคยเกิดมา ตอนนี้หลายคนอยู่ในอาการหวาดผวาและจะไม่ขอกลับมาสร้างบ้านอยู่ในจุดดังกล่าวอีก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเมื่อไหร่ และอาจจะไม่โชคดีเท่าครั้งนี้ที่รอดชีวิตมาได้
นางมุกดา วงศ์นาค อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 8 ซึ่งเป็นบ้านหลังที่ถูกน้ำไหลหลากเซาะตลิ่งจนทรุดและบ้านพังทลายหายไปทั้งหลังพร้อมกับกระแสน้ำช่วงเย็นวานนี้ (23ก.ย.67) เปิดเผยว่า วานนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น.น้ำที่ไหลเชี่ยวเริ่มเซาะตลิ่งและฐานของตัวบ้านจนค่อยๆทรุด จึงได้รีบเข้าไปขนย้ายข้าวของออกมาจากบ้าน จากนั้นเมื่อผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตัวบ้านเริ่มแตกร้าวและมีเสียงดังลั่น จึงต้องรีบออกมาจากบ้าน โดยที่ยังมีข้าวของเหลืออยู่อีกหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งแอร์ และตู้เย็น ซึ่งหลังจากที่ออกมาได้เพียงไม่นานตัวบ้านก็ทรุดและพังครืนลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา
ทั้งนี้นางมุกดาบอกว่า นาทีที่บ้านพังครืนลงทั้งหลังและถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากพัดหายไปนั้นตัวเองหัวใจสลายและแทบจะเป็นลมล้มพับลงไป เพราะบ้านหลังนี้เพิ่งสร้างใหม่และอยู่อาศัยมาได้เพียงประมาณ 3 ปี กว่าเท่านั้น โดยที่กู้เงินมาสร้างแทนบ้านหลังเดิมที่อยู่มาตั้งแต่เกิดและยังใช้หนี้ไม่หมดเลย ซึ่งตั้งแต่ที่เกิดและอยู่อาศัยบ้านที่สร้างบนที่ดินผืนนี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้รวมทั้งไม่เคยเห็นน้ำมากและไหลเชี่ยวกรากรุนแรงเท่านี้มาก่อนในชีวิตขณะที่หลังจากนี้คงต้องย้ายไปหาที่อยู่ใหม่เพราะที่ดินซึ่งเป็นโฉนดถูกน้ำซัดหายไปเกือบทั้งหมด และต่อให้ที่ดินยังอยู่ก็คงไม่กล้าสร้างบ้านหลังใหม่บนที่เดิมอีกแล้ว เพราะกลัวจะเกิดเหตุซ้ำอีก
สำหรับจุดดังกล่าวเป็นสองฝั่งริมน้ำแม่ริมทิศเหนือ เป็นพื้นที่ของตำบลริมเหนือส่วนทิศใต้ ที่เกิดบ้านทรุดล่าสุดเป็นฝั่งตำบลริมใต้ ซึ่งเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาก็เกิดน้ำป่ามาแล้ว 1 รอบ รอบแรกกระแสน้ำพุ่งไปกัดเซาะฝั่งของตำบลริมเหนือ ทำให้บ้านทรุดและพังเสียหายไป 5 หลังแต่ไม่ถึงกับทรุดตัวลงไปในน้ำทั้งหลัง และล่าสุดกระแสน้ำเปลี่ยนทิศเนื่องจากตอไม้ใหญ่ที่เคยขวางทางน้ำให้นั้นถูกน้ำป่าซัดลอยออกไป ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนมาพุ่งตรงใส่ฝั่งตำบลริมใต้ แม้จะทางเทศบาลจะมาเสริมพนังด้วยการตอกไม้หลักและเสริมด้วยกระสอบทรายไว้เมื่อเดือนก่อนแต่ก็ไม่สามารถต้านแรงน้ำไว้ได้
อย่างไรก็ตามยังพบว่าระดับน้ำยังสูงและไหลเชี่ยว ประกอบกับยังพบว่ามีกลุ่มฝนบริเวณป่าต้นน้ำแม่ริม ทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และดอยแม่ริม ทำให้ยังไม่สามารถไว้วางใจสถานการณ์ได้ในขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง.
Advertisement
