แม่แจ้งความลูก 6 ขวบ ถูกเพื่อนแกล้งกดหัวลงชักโครก จนน้ำเข้าจมูก แจ้งโรงเรียนไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว กลับโดนผู้ปกครองอีกฝั่งหัวเราะใส่
วันที่ 9 ก.ค 67 เวลา 12:00 น. พ.ต.ต. สุภัทรพงศ์ บุญกำเหนิด สว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง จ.ระยอง ได้รับแจ้ง จาก นางสาวกชพร ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.67 เวลาประมาณ 19:00 น. ด.ช เอ (นามสมมติ) ลูกชายอายุ 6 ขวบ อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง เล่าให้ฟังว่า เมื่อกลางเดือน มิ.ย ที่ผ่านมา ช่วงเวลาพักกลางวันที่โรงเรียน ได้ถูกเด็กชาย ปอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องได้กดศีรษะ ด.ช.เอ ลงในชักโครก และใบหน้าของ ด.ช. เอ สัมผัสกับน้ำในชักโครก จากเหตุดังกล่าวน้ำในชักโครก ได้เข้าจมูก ด.ช. เอ และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล น.ส กชพร เกรงว่า ในอนาคต ด.ช ปอ อาจจะก่อเหตุเพิ่มเติมและร้ายแรงกว่าเดิม ตนจึงเข้ามา พบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความ ลงไว้เป็นหลักฐาน และประสงค์ให้พนักงานสอบสวนเรียกเจรจาทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายโรงเรียนผู้ปกครองทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหากับเรื่องที่เกิดขึ้น
นางสาวกชพร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นแม่ เมื่อทราบเรื่องจากลูกชายว่าไปโรงเรียนแล้วโดนเพื่อนแกล้งถึงขั้นเอาหัวกดชักโครก เป็นเรื่องที่รับไม่ได้สำหรับคนเป็นแม่ เมื่อแม่ทราบเรื่องก็รีบไปแจ้งกับทางโรงเรียนเพื่อขอคุยกับผู้ปกครองอีกฝั่ง ตนก็แจ้งไปว่ามีความประสงค์อยากให้ ด.ช.ปอ ย้ายห้องไปอยู่อีกห้อง เพราะ ถ้าให้ลูกของตนย้ายห้อง ตนจะบอกกับลูกว่าอย่างไร เพราะลูกตนไม่ได้ผิด ถ้าให้ลูกย้ายห้องลูกตนก็จะเข้าใจว่าเค้าผิด ตนก็คิดว่าไม่อยากให้เด็กสองคนอยู่ห้องเดียวกัน เพราะจิตใจของเด็กประเมินค่าไม่ได้ว่า ตอนนี้น้องเค้ากลัวขนาดไหน ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกตนก็ไม่เคยฉี่รดกางเกงกลับมาแต่เมื่อเกิดเรื่องลูกตนกลับฉี่รดกางเกงกลับมาบ้าน
น.ส กชพร ยังบอกอีกว่า ที่โดนหนักที่สุดในวันที่นัดคุยกันก็คือ ตนถามฝ่ายผู้ปกครองของด.ช.ปอว่า ถ้า ลูกตนสำลักน้ำขึ้นมาจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่อีกฝั่งทำคือการหัวเราะ ตนเลยอดกลั้น ไม่สามารถคุยอะไรต่อได้เลย เพราะรับไม่ไหว จนถึงตอนนี้ด้านฝั่งของ ด.ช. ปอ ก็ยังไม่ออกมาขอโทษอย่างจริงใจ ไม่มีการแสดงความจริงใจกับตนและลูก วันนี้จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความและส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะหวั่นกลัวว่าลูกชายจะโดนกระทำอีก
ในระหว่างที่พูดคุย น.ส กชพร ยังได้เปิดคลิปเสียงบางส่วน ในวันที่ทางโรงเรียนเรียกทั้งสองฝั่งมาคุยกัน และแชตระหว่างคุณครูกับผู้ปกครองของอีกฝั่ง เพื่อยืนยันถึงสิ่งที่ตนให้สัมภาษณ์
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกผู้ปกครองทั้งสองฝั่งพร้อมโรงเรียนและสหวิชาชีพเข้ามาสอบสวนเพื่อไกล่เกลี่ย หาทางแก้ปัญหาในเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ต่อไป
Advertisement