ลูกชายซึ่งเป็น แรงงาน ไทยใน อิสราเอล อยากกลับบ้านแต่ไม่มีเงินซื้อตั๋ว แถมถูกนายจ้างเบี้ยวค่าจ้าง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านใหม่เจริญสุข และบ้านสองแคว ตำบลสะเนียน อำเภอเมิองน่าน ส่วนใหญ่เป็นชาวชาติพันธุ์ม้ง ซึ่งเดินทางไปขายแรงงานที่อิสราเอลถึง 67 คน โดยเดินทางไปตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นปู่ เพื่อหาเงินมาสร้างบ้าน ซื้อรถและสิ่งอำเภอความสะดวกต่าง ๆ พร้อมเป็นทุนสร้างอาชีพสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เกือบทั้งหมดประกอบอาชีพการเกษตรแต่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ต้องทำไร่ข้าวโพดทิ่ราคาตก
โดยผู้สื่อข่าวได้ไปพบนายชาติ วรรจนนิจ อายุ 46 ปี ที่เคยไปทำงานประเทศอิสราเอลเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อยู่จนครบสัญญา 5 ปี ได้เงินมาสร้างบ้าน ซื้อรถและเป็นทุนประกอบอาชีพกว่า 1 ล้านบาท
ตอนนี้มีลูกชายเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ซึ่งทั้งคู่อยู่ในเขตสู้รบ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือออกมาอยู่ในแคมป์รวมกับคนไทยอื่นๆ ซึ่งนายชาติ บอกว่าถ้าไม่ไปก็จนอยู่อย่างนี้ ดังนั้นลูกชายสองคนเห็นพ่อสามารถนำเงินมาปลดหนี้ และสร้างบ้าน ซื้อรถและยังมีทุนเหลือต่อยอดอาชีพไปอีกจึงตามรอยพ่อไป แต่ตอนนี้อยากจะให้ทั้งสองคน คือนายชาตรี วรรจนนิจ อายุ 28 และนายไพรัตน์ วรรจนนิจ 25 ปี เดินทางกลับเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้นายชาตรี ลูกชายคนโต มีครอบครัวแล้วส่งเงินให้ภรรยาเดือนละประมาณ 70,000 บาท ส่วนนายไพรัตน์ ลูกชายคนเล็กแบ่งเงินให้พ่อเดือนละประมาณ 30,000 บาท
ขณะเดียวกันได้ติดต่อพูดคุยกับลูกชายสอบถามสารทุกข์สุขดิบ และลูกชายได้ให้ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับนายยศ เพื่อนของลูกชายที่อยู่ด้วยกัน โดยเพื่อนลูกชายที่เป็นแรงงานอยู่ในพื้นที่เดียวกันบอกว่า ตอนนี้อยู่ในแคมป์รวมกับแรงงานไทยจากจังหวัดอื่น ๆ ประมาณ 300 คน กำลังขาดแคลนอาหาร หลายคนไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนต้องใส่ชุดเดิมที่หนีมา ไม่มีเงินติดตัว เงินที่นายจ้างติดค้างเมื่อเดือนที่แล้วยังไม่รับคนละประมาณ 70,000 บาท เกรงว่านายจ้างจะเบี้ยว พวกตนอยากกลับแต่ไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบิน เพราะที่ลงทะเบียนระรัฐบาลไทยมารับก็ไม่รู้จะได้กลับเมื่อไร อยากให้รัฐบาลไทยติดตามทวงเงินที่นายจ้างค้างพวกตน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างรอกลับไทยและซื้อตั๋วเครื่องบินต่อไป.
Advertisement