"ภิกษุณีปลาย" กราบขอโทษพระสงฆ์ไทย แจงปม ไลฟ์สดขาย "สบู่น้ำมนต์" ตั้งใจหาเงินช่วยวัดศรีลังกา รับอ้างสรรพคุณสบู่ล้างสิ่งอัปมงคลคิดสั้นไป
จากกรณีที่ ภิกษุณีสุทัสสนา หรือ หมอปลาย ได้ออกมาโพสต์คลิป ไลฟ์สดขาย "สบู่น้ำมนต์" ราคาก้อนละ 199 บาท พร้อมบรรยายสรรพคุณ ว่า สามารถชำระล้างอวิชชา เสริมโชคลาภ หนุนดวงชะตา ช่วยแก้ดวงตก โดนทำของ แก้เจ้ากรรมนายเวรได้ พร้อมทั้งมีการขายวัตถุมงคล
ต่อมา นายศรีสุวรรณ จรรยาเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้าร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและมหาเถรสมาคมฯ ขอให้ดำเนินรการตรวจสอบและเอาผิดภิกษุณีสุทัสสนาที่มีพฤติการณ์อาจเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย และมิใช่กิจของสงฆ์ อันจะสร้างความเสื่อมในบวรพุทธศาสนาได้
ล่าสุด วันที่ 28 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ภิกษุณีสุทัสสนา" หรือที่รู้จักในฐานะฆราวาสคือ "หมอปลาย พรายกระซิบ" ได้ออกมาแถลงเรื่องราวดังกล่าวโดยชี้แจงว่า การไลฟ์สดเกิดขึ้นจริงที่ประเทศศรีลังกา
ภิกษุณีสุทัสสนา ให้เหตุผลว่า ที่ต้องไลฟ์สดขายของ เนื่องจาก ขณะนี้ที่ศรีลังกาได้เกิดวิกฤตล่มสลาย แต่ก่อนหน้านี้ที่ ภิกษุณี บวชเป็น แม่ชี ยังไม่เกิดปัญหา ภิกษุณีจึงได้ปรึกษากับทางเจ้าอาวาสที่นี่ว่าจะช่วยเหลือประเทศศรีลังกาได้อย่างไร เพราะการดำเนินชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญ
ช่วงที่ศรีลังกาวิกฤตหนัก ต้องอยู่โดยไม่มีอะไรฉันท์ ต้องขุดมันสำปะหลังขึ้นมาทาน ทำให้ต้องปรึกษากับเจ้าอาวาสในวัดที่ศรีลังกา โดยยกตัวอย่าง วัดที่ไทยที่มีการ ขายวัตถุมงคลหาเงินเข้าวัด เจ้าอาวาสก็แจ้งกลับมาว่าทำอย่างไรก็ได้ให้วิกฤตนี้ผ่านไป ภิกษุณีปราย กล่าว
ภิกษุณี ยอมรับว่าขายจริง แต่ทุกครั้งที่ไลฟ์สดระบุว่าภิกษุณีปลายไม่อยากขอ แต่เป็นตามกำลังศรัทธา ไม่ได้อยากให้ช่วยฟรี อยากให้มีของแลกเปลี่ยนกราบขอโทษพระสงฆ์ไทยและพระภิกษุณีไทยทุกๆพระองค์ เพราะตนรู้สึกผิดที่สุดยอมรับว่าประมาท เพราะไม่ได้ปรึกษาที่ประเทศไทยพอไปอยู่ที่โน่น ลืมว่าตนเป็นพระ แต่ขออนุญาตพระอุปชาญะตลอด ท่านก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร
ส่วนที่อวดอ้างสรรพคุณสบู่ล้างสิ่งอัปมงคลและสิ่งสกปรก ปกติอาบน้ำมนต์ 7 วัดแต่ไม่สะดวกเลยต้องหานวัตกรรมใหม่มาช่วย ยอมรับว่าคิดสั้น ลืมว่ามันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ถ้าสึกคงหาเงินได้มากกว่านี้ ไม่ต้องห่วงไม่ต้องเร่งอยู่แค่ปีเดียวก็จะสึกแล้ว
นอกจากนี้ยังได้ฝากไปถึง นายศรีสุวรรณ ว่า ก่อนที่จะฟ้องใครควรจะคุยกันส่วนตัวก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปทำให้เป็นเรื่องซึ่งถือว่าไม่แฟร์ เบื้องต้นขอให้โทษเขาแต่คาดว่าเขาอาจจะหิวแสงก็คงต้องปล่อยเขาไป
ส่วนกรณีที่พระพยอมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทำให้ภิกษุณีทางเสื่อมเสีย ส่วนตัวยอมรับขอโทษที่คิดน้อย และทำให้เสื่อมเสีย ภิกษุณีปลายฝากทิ้งท้ายโดยระบุว่าใครที่เคยร่วมบุญกันรบกวนขอรีวิวด้วยจะได้เอาปัจจัยตรงนี้ไปช่วยต่อ
Advertisement