
"น้องแอร์" หายปริศนา 8 ปี ก่อนพบเป็นศพนิรนาม แม่ร่ำไห้นำกระดูกไปบำเพ็ญกุศล บอกวันสุดท้ายที่เจอลูกสาวบอกจะไปซื้อนมให้ลูก ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่วัดบ้านข่อยเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี นางมาลี พงษ์จีน ไปรับกระดูกลูกสาวหรือนางสาวธัญญลักษณ์ พงษ์จีน หรือ "น้องแอร์" ลูกสาวสุดที่รักซึ่งได้หายไป 8 ปี มาเจออีกทีกลายเป็นกระดูก แม่ได้กระดูกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งได้ไปพบกระดูกน้องแอร์อยู่บริเวณริมแม่น้ำในอ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติได้นำกระดูกของน้องแอร์มาประกอบพิธีรดน้ำศพน้องแอร์ โดยผู้เป็นแม่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้ตลอด

นางมาลี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทุกข์ใจมาตลอดตั้งแต่ลูกสาวหายออกไปจากบ้าน วันที่ลูกหายไปบอกแม่ว่าจะไปซื้อนมให้ลูก จากนั้นลูกส่งข้อความมาหาน้องสาวว่า “ขอโทษฝากดูแลแม่และลูกด้วยนะ” จากนั้นติดต่อไม่ได้เลย ตัวเองตามหามาทุกวิถีทางซึ่งในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่เขาหายไปเรามีความหวังว่าเขาจะกลับบ้านมาตลอด จนมาถูกพบเป็นศพเหลือแต่กระดูกถูกฆาตกรรม จึงอยากถามไปถึงจิตใจคนที่ทำกับลูกสาวทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้ พร้อมฝากไปถึงตำรวจให้จับคนที่ทำร้ายลูกสาวให้ได้เร็ว

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงาบอกว่า กรณีการเสียชีวิตของน้องแอร์เกิดจากช่วงที่สาวโรงงานคนหนึ่งชื่อว่า น้องหลิว ซึ่งเป็นคนหายที่ทางมูลนิธิติดตามจนพบว่าเป็นศพนิรนามและถูกฆาตกรรมเสียชีวิตที่ จ.สระแก้ว ตอนนั้นมีการเปิดเผยข้อมูลน้องหลิวครั้งแรกคือวันที่ 14 ก.พ.64 โดยครอบครัวของน้องแอร์ติดตามข่าวจึงสงสัยว่าน้องแอร์จะเป็นกรณีเดียวกันกับน้องหลิวหรือไม่ เพราะน้องแอร์หายออกจากบ้านไปในระยะเวลาใกล้เคียงน้องหลิวจึงแจ้งเรื่องมาที่มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งน้องแอร์หายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์และทองคำมูลค่า 5 บาท

ครั้งแรกที่ครอบครัวไปแจ้งความเป็นการแจ้งความเรื่องรถหายเพราะคิดว่าลูกสาวอยู่บ้านเพื่อน วันหนึ่งอาจจะกลับบ้านหรือไปทำงานที่อื่น หลังจากมูลนิธิรับแจ้งเหตุจึงให้คำแนะนำและตรวจสอบข้อมูลในระบบ ทั้งเรื่องทะเบียนราษฎร์ ประกันสังคม หรืออาจจะไปติดคุกในเรือนจำหรือไม่ รวมทั้งการเดินทางออกนอกประเทศ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลไม่พบประวัติข้อมูลของน้องแอร์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเป็นช่วงที่โควิดระบาด ทำให้การตามหาต้องหยุดชะงักไปมา ปีนี้จึงมีการติดตามเคสต่างๆ ต่อ
เคสน้องแอร์เป็นหนึ่งในเคสที่มูลนิธิสงสัยว่าอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วจึงเริ่มกระบวนการในการเก็บดีเอ็นเอ โดยการประสานกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่เพื่อนำดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบกระทั่งผ่านไป 2 เดือน พบว่าน้องแอร์คือหญิงที่ถูกฆาตกรรมตั้งแต่ปี 2557 หรือหลังจากที่น้องแอร์หายออกจากบ้านไปประมาณ 10 วัน
Advertisement