ทั้งนี้ จุดให้บริการ คือ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ ร้านขายยา รพ.เอกชน คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ ส่วน ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะให้บริการสำหรับหญิงไทยทุกสิทธิ อายุระหว่าง 15-59 ปี โดยรับครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผง/ปี
สำหรับวิธีขอรับบริการมี 2 วิธี คือ 1.กรณีมีสมาร์ทโฟนขอรับยาคุมกำเนิดผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ จองสิทธิ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ และ 2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 นี้เป็นต้นไป
ขณะที่ถุงยางอนามัยจะให้บริการแก่คนไทยทุกสิทธิอายุ 15 ปีขึ้นไป รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/สัปดาห์ รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยาง/คน/ปี โดยใช้สมาร์ทโฟนแอดไลน์ สปสช. แล้วสแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจสามารถดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์ มีให้เลือก 4 ไซส์ ได้แก่ 49 มม. 52 มม. 54 มม. และ 56 มม. จะเริ่มให้บริการในช่วง เม.ย. 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิธีลงทะเบียนรับ ชุดตรวจ ATK ฟรี จาก สปสช. ผ่านแอปเป๋าตัง หมดเขต 31 ธ.ค. 65
- ชวน ตรวจ ATK ฟรี สปสช.ให้คนไทยกลุ่มเสี่ยงคัดกรองโควิด19 รู้ผลใน 30 นาที
- ที่ประชุม สปสช. มีมติให้ประชาชน ผู้ป่วย เข้ารับการฟอกไต ฟรี! ทุกกรณี
Advertisement