
พระราชกรณียกิจอันสำคัญของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ปวงชนชาวไทยและทั่วโลกน้อมรำลึกได้เสมอ คือการทรงประกอบพระราชกรณียกิจเคียงข้าง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศ ระหว่างปี พ.ศ. 2502–2510 เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตในนามประเทศไทย รวมทั้งหมด 27 ประเทศ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ช่วยเผยแพร่ภาพลักษณ์ ประเพณี วัฒนธรรม อันดีงามของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
การเสด็จฯ เยือนนานาประเทศ สิ่งที่โดดเด่นและสร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติ คือ พระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทั้งการแต่งกายที่สง่างาม มีความเป็นสากลแต่ยังดำรงไว้ด้วยอัตลักษณ์ของคนไทย รวมถึงพระพักตร์ พระเกศา ที่งดงามเหนือกาลเวลา ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2505 ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นสตรีกว่า 2,000 คนทั่วโลก ได้ลงมติยกย่องให้พระองค์เป็นหนึ่งใน 10 สุภาพสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลก และพระองค์ยังทรงได้รับการยกย่องให้จารึกพระนามาภิไธยบนหอแห่งเกียรติคุณ ณ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในฐานะทรงเป็นหนึ่งใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก (The World’s Best-Dressed Women Hall of Fame) ประจำปี พ.ศ. 2508
เบื้องหลังพระสิริโฉมและความสง่างามจนเป็นประจักษ์และกล่าวขานกันไปทั้งโลกของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เป็นฝีมือของ ท่านผู้หญิงทัดสมัย เศวตเศรนี ช่างพระเกศาและช่างแต่งพระพักตร์ประจำพระองค์ ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทด้วยความจงรักภักดีตลอดชีวิต
ท่านผู้หญิงทัดสมัย เศวตเศรนี เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 เป็นธิดาของ หม่อมราชวงศ์วงศ์เทพ เทวกุล และคุณฉลวย เทวกุล ณ อยุธยา เมื่ออายุ 18 ปี ครอบครัวได้นำท่านขึ้นถวายตัวเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และในปี พ.ศ. 2502 ได้ตามเสด็จฯ ต่างประเทศเป็นเวลา 7 เดือน พระองค์ทรงเห็นความสามารถด้านศิลปะและความประณีตบรรจงของท่านผู้หญิงทัดสมัย จึงโปรดให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศถ่ายทอดความรู้ด้านการแต่งกายและการแต่งหน้าอย่างมืออาชีพ นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญก่อนจะได้รับพระราชทานหน้าที่เป็น ช่างพระเกศา และ ช่างแต่งพระพักตร์ประจำพระองค์ ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตราชสำนัก
ท่านผู้หญิงทัดสมัยได้ถวายงานด้วยความจงรักภักดีและทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอดชีวิต จวบจนวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2540 ท่านผู้หญิงทัดสมัยถึงแก่อนิจกรรมเนื่องจาก เฮลิคอปเตอร์ในขบวนเสด็จของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตกในป่าบริเวณเทือกเขาลิจอ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ทำให้ข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่เสียชีวิตรวม 14 ท่าน การเสียชีวิตของท่านผู้หญิงทัดสมัย ในขณะถวายงาน ได้รับการกล่าวถึงในฐานะการสละชีวิตในหน้าที่ ด้วยความจงรักภักดีอย่างสมบูรณ์
Advertisement