
ปรากฏการณ์ "รถบรรทุกเล็ก 4 ล้อ" จุดไฟให้คนทั้งประเทศ
ท่ามกลางสปอร์ตไลต์ที่สาดส่องในสนามแข่งขันฟุตบอลนักเรียนระดับประเทศ ชื่อของ "หมอนทองวิทยา" โรงเรียนเล็ก ๆ จากจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กลายเป็นกระแสไวรัลที่จุดไฟในใจผู้คนทั่วประเทศ
ภาพที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความทุ่มเทคือ "รถบรรทุกเล็ก 4 ล้อ" คันเก่า ที่อาจารย์ท่านหนึ่งขับเคลื่อนนำพานักฟุตบอลจากโรงเรียนภูธรที่แทบไม่มีใครรู้จัก สู่สนามระดับประเทศในศึก "แชมป์กีฬา 7 สี" ประจำปี 2025
นี่คือการพิสูจน์ว่า ความฝันสามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าที่เราคิด และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความมหัศจรรย์นี้ คือชายวัย 65 ปี ที่อุทิศชีวิตให้กับหน้าที่ครูและโค้ชมาตลอด 40 ปี ชื่อของเขาคือ "อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ"
เส้นทางสู่ "ครูพละ"
อาจารย์สกลเป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี จบการศึกษาจาก โรงเรียนเทพศิรินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ฟุตบอลคือชีวิต ก่อนจะศึกษาต่อจนจบปริญญาตรี เอกพลศึกษา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ที่น่าสนใจคือ หลังจบการศึกษา ท่านเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็น พนักงานเดินตั๋วรถไฟอยู่ราว 3-4 ปี ก่อนตัดสินใจกลับมาเป็น "ครูพละ" และเริ่มต้นเส้นทางโค้ชฟุตบอลในระดับโรงเรียนอย่างจริงจัง
ท่านเริ่มต้นอาชีพโค้ชที่โรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ คลองเตย จากนั้นย้ายไปคุมทีมที่โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ก่อนจะได้รับโอกาสคุมทีมฟุตบอล โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลนักเรียน
ตำนานโค้ช 7 สี ปั้นแชมป์ 3 สมัย ที่สุรศักดิ์มนตรี
ในช่วงคุมทีมสุรศักดิ์มนตรี อาจารย์สกลได้สร้างชื่อเสียงอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลนักเรียน 7 คน "แชมป์กีฬา 7 สี" ได้ถึง 5 ปีติดต่อกัน และคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้ถึง 3 สมัยในปี 2015, 2017, 2018 จนทำให้ทีมกลายเป็นที่รักและขวัญใจของแฟนบอลทั่วประเทศ
ชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ ทำให้อาจารย์สกลเป็นที่รู้จักในฐานะ "โค้ชนักปั้นแห่งวงการนักเรียน" ที่ทุ่มเทดูแลลูกศิษย์ตั้งแต่เรื่องระเบียบวินัยในชีวิตประจำวัน การเรียนในห้อง ไปจนถึงการฝึกซ้อมในสนาม
"โค้ชสกล" ผู้อยู่เบื้องหลังดาวดังวงการลูกหนังและร็อกสตาร์
ตลอดเส้นทางการเป็นโค้ช อาจารย์สกลได้สร้างนักเตะดาวดังให้กับวงการฟุตบอลไทยมาแล้วมากมาย อาทิ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (กองหน้าทีมชาติไทยคนปัจจุบัน), ศศลักษณ์ ไหประโคน, วิศรุต อิ่มอุระ, ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม, จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ และที่น้อยคนจะรู้ คืออดีตลูกศิษย์อีกหนึ่งคนคือศิลปินร็อกแถวหน้าของเมืองไทยนั่นคือ "แบงค์-ปรีติ บารมีอนันต์" หรือ แบงค์ วงแคลช” นั่นเองครับ
โดย “แบงค์” ได้ย้อนความทรงจำถึงวันวานว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมฟุตบอล โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ภายใต้การคุมทีมของอาจารย์สกล แม้จะเป็นเพียงตัวสำรองและน้องเล็กของทีม แต่อาจารย์สกลก็ยังมอบโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตให้เขาได้ลงสนาม 10 นาทีสุดท้าย ในนัดชิงรองแชมป์กรมพละ ซึ่งเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลนักเรียน
“แบงค์” เล่าว่า อาจารย์สกลยังเป็นคนขับรถตู้เก่า ๆ แบกความฝันของทั้งทีมไปยังสนามแข่งขันด้วยตัวเอง ซึ่งไม่แตกต่างจากภาพไวรัลของรถบรรทุก 4 ล้อในวันนี้เลย ความเคารพที่เขามีต่ออาจารย์ไม่เคยจางหาย และยกย่องอาจารย์สกลว่าเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจแห่งการไม่ยอมแพ้ให้ฝังรากลึกในตัวเขา
"ถ้าเด็กจะฝันได้ ผู้ใหญ่ต้องพาเขาไปให้ถึงสนามก่อน"
ในวัย 65 ปี หลังเกษียณอายุราชการ อาจารย์สกลก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสให้กับเด็ก ๆ ต่อไป ในปีนี้ เขาได้กลับมาสร้างชื่ออีกครั้งกับ “โรงเรียนหมอนทองวิทยา” โรงเรียนขนาดเล็กระดับตำบลที่มีนักเรียนราว 500 คน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
ภาพของอาจารย์สกลที่ขับรถบรรทุกเล็กพานักเรียนออกเดินทางไปแข่งขันในรายการใหญ่ระดับประเทศ กลายเป็นภาพไวรัลที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั้งประเทศ นี่คือความทุ่มเทที่พิสูจน์ให้เห็นว่า "ถ้าเด็กจะฝันได้ ผู้ใหญ่ต้องพาเขาไปให้ถึงสนามก่อน"
ภายใต้การนำของโค้ชสกล หมอนทองวิทยา ทีมรองบ่อนที่ไม่มีใครคาดคิด จึงสามารถสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการฝ่าด่านทีมยักษ์ใหญ่อย่างอัสสัมชัญธนบุรี, เทพศิรินทร์ และเอาชนะอัสสัมชัญศรีราชา ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอล 7 สี ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน
อาจารย์สกล ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า รถคันเล็ก ๆ ก็สามารถขับเคลื่อนความฝันของเด็ก ๆ ให้กลายเป็นความจริงได้ ชัยชนะที่แท้จริง ของ "อาจารย์สกล" และ "หมอนทองวิทยา" จึงได้เกิดขึ้นแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ครองแชมป์ก็ตาม
การเดินทางอันน่าทึ่งนี้ได้มอบประสบการณ์ล้ำค่าระดับชาติ ที่นักฟุตบอลเยาวชนเหล่านี้ได้เรียนรู้การต่อสู้ภายใต้ความกดดัน พร้อมทั้งเปิดประตูสู่โอกาสที่สดใส ทั้งในเส้นทางฟุตบอลอาชีพและโอกาสทางการศึกษาที่ดีกว่า
นี่คือเรื่องราวที่ตอกย้ำว่า กีฬามีแพ้มีชนะ แต่ประสบการณ์ที่เหล่านักฟุตบอลรุ่นเยาว์ได้รับนั้นมีคุณค่าอย่างยิ่ง และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนพวกเขาไปสู่อนาคตที่สดใสในอนาคต
Advertisement