Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เมื่อ "ชีสขึ้นรา" กลายเป็นดรามา รู้จัก Gorgonzola "นางฟ้าแห่งบลูชีส"

เมื่อ "ชีสขึ้นรา" กลายเป็นดรามา รู้จัก Gorgonzola "นางฟ้าแห่งบลูชีส"

17 ก.ย. 68
15:15 น.
แชร์

เรื่องราวของร้านเบเกอรี่ชื่อดัง London.cnx ที่จังหวัดเชียงใหม่ กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลังจากมีลูกค้าท่านหนึ่งได้เขียนรีวิวเมนู "4-Cheese Pretzel" เมนูยอดฮิตของร้านด้วยการให้คะแนนเพียง 1 ดาว พร้อมตำหนิว่า ชีสในขนมขึ้นราและขาดความใส่ใจเรื่องสุขอนามัย ก่อนที่ร้านจะชี้แจงกลับทำให้หลายคนต้องประหลาดใจ เพราะสิ่งที่ลูกค้าเข้าใจว่าเป็น "รา" แท้จริงแล้วคือ Gorgonzola (กอร์กอนโซล่า) ชีสชั้นสูงจากอิตาลีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "นางฟ้าแห่งบลูชีส" วันนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับบลูชีสให้มากขึ้น เพื่อไขข้อข้องใจว่า "รา" ในชีสนั้นสามารถรับประทานได้จริงหรือไม่

เมื่อ "รา" ไม่ใช่ของเสีย แต่เป็นส่วนหนึ่งของความพิเศษโลกแห่งชีส

ชีส (Cheese) หรือเนยแข็ง คือผลิตภัณฑ์จากนมที่ผ่านกระบวนการหมักบ่ม เริ่มจากการนำน้ำนมไปผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์หรือใช้น้ำนมดิบ จากนั้นเติมเชื้อแบคทีเรียแลคติกและเอนไซม์เรนนินเพื่อให้โปรตีนในนมตกตะกอนรวมตัวกันเป็นลิ่มสีขาว (Curd) ก่อนจะนำไปอัดเป็นก้อนและบ่มต่อเพื่อพัฒนาให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สิ่งที่น่าสนใจคือ ชีสบางประเภทมีการใส่ "เชื้อรา" ลงไปในขั้นตอนการผลิตอย่างตั้งใจ ซึ่งเป็นเชื้อราที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อการบริโภค หนึ่งในประเภทชีสที่โดดเด่นที่สุดจากกรรมวิธีนี้ก็คือ บลูชีส (Blue cheese)

บลูชีส (Blue cheese) คืออะไร ทำไม "รา" ในชีสถึงกินได้

บลูชีสไม่ได้ขึ้นราจากความเก่าหรือการเก็บที่ไม่ถูกวิธี แต่เป็นชีสที่ตั้งใจใส่สปอร์ของเชื้อราตระกูล Penicillium (เช่น Penicillium roqueforti หรือ Penicillium glaucum) ลงไปในระหว่างกระบวนการผลิต เชื้อราเหล่านี้จะค่อย ๆ เจริญเติบโตแทรกซึมไปทั่วทั้งก้อนชีสจนกลายเป็นลายเส้นสีฟ้าปนเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "บลูชีส" นั่นเอง

รสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของบลูชีสจะแตกต่างกันไปตามชนิดของน้ำนม (วัว, แพะ, แกะ), ระยะเวลาในการบ่ม และกรรมวิธีของแต่ละท้องถิ่น ชีสชนิดนี้มีชื่อเรียกหลากหลายตามแหล่งผลิตทั่วโลก เช่น Roquefort (ร็อคฟอร์ต) จากประเทศฝรั่งเศส Stilton (สติลตัน) จากประเทศอังกฤษ Gorgonzola (กอร์กอนโซล่า) จากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบลูชีสตัวเอกในกรณีของร้าน London.cnx

“บลูชีส” มีกลิ่นค่อนข้างแรงและมีรสเค็มจัด มักนำมาทานคู่กับขนมปัง ผักสลัด หรือใช้เป็นส่วนผสมในซอส นอกจากนี้ยังนิยมทานคู่กับไวน์รสหวานเพื่อตัดความเค็มและเพิ่มมิติของรสชาติ

ประโยชน์ดี ๆ จากชีส

นอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ชีสยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้ง แคลเซียม และ โปรตีน ที่ช่วยบำรุงกระดูกและกล้ามเนื้อ มี วิตามินดี ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม วิตามินบี 12 ที่บำรุงระบบประสาท และยังมีฟอสฟอรัสกับสังกะสี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย

เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า การขาดความรู้ในเรื่องวัตถุดิบอาหารอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการได้ ในขณะเดียวกัน ทางร้านก็ได้เปิดเผยข้อมูล และไม่คิดจะดำเนินคดีใด ๆ เพียงแต่อยากให้ลูกค้าเปิดใจและทำความเข้าใจในความพิเศษของ Gorgonzola หรือ "นางฟ้าแห่งบลูชีส" ตัวนี้

ถึงแม้เรื่องราวนี้จะเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด แต่ก็ได้สร้างความตระหนักรู้และเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับชีสประเภทนี้ให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการให้ความรู้ด้านอาหาร ซึ่งอาจทำให้หลายคนเปิดใจลองชิมบลูชีส และค้นพบว่า "รา" ที่เห็นนั้น แท้จริงแล้วคือรสชาติอันซับซ้อนอย่างที่หลายคนทั่วโลกหลงรักมาอย่างยาวนานนั่นเอง

Advertisement

แชร์
เมื่อ "ชีสขึ้นรา" กลายเป็นดรามา รู้จัก Gorgonzola "นางฟ้าแห่งบลูชีส"