
(19 ธ.ค. 2568) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา นาวาเอก เกียรติยุทธ เทียนสุวรรณ รองโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงรายละเอียดของการค้นพบยุทธภัณฑ์บริเวณบ้านสามหลัง จ.ตราด โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดน จันทบุรีและตราด ได้เข้ายึดพื้นที่และขับไล่ข้าศึกออกไปจากบ้านหนองรี ต.ชำราก จ.ตราด หลังจากที่เราได้เข้าไปในพื้นที่ แล้วก็ได้นำหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดมนุษยธรรมของกองทัพเรือเข้าไป เราได้ตรวจพบหลักฐานจำนวนมาก ที่แสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชาไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของหลักการพื้นฐานด้านมนุษยธรรม แม้อยู่บนพื้นฐานของอนุสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการงดใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
โดยมีการเปิดเผยภาพบันทึกที่เราพบในพื้นที่ว่าเป็นตัวอักษรที่เขียนด้วยมือ เป็นการบันทึก ลงวันที่ชัดเจน นั่นคือวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เกี่ยวกับในเรื่องของวิธีการและคุณลักษณะของระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 และพบยุทโธปกรณ์อีกจำนวนมากกว่า 340 รายการ อยู่ในพื้นที่ อีกทั้งส่วนที่เราเห็นว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างร้ายแรงมากๆ เลยก็คือว่ามีการดัดแปลง การใช้หัวลูกปืนใหญ่ 105 มิลลิเมตร มาดัดแปลงเป็นระะเบิดนะครับที่มีตัวจุดชนวนเนี่ยเชื่อมต่อกันจากลูกระเบิดหลายๆ ลูกเนี่ยเข้าไปที่ปุ่มที่สามารถที่จะกดเพียงครั้งเดียว แล้วลูกระเบิดทั้งหมดเนี่ยระเบิดพร้อมๆ กัน ซึ่งถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อทั้งกำลังทหารและก็พลเรือนของเราเป็นอย่างมาก
สำหรับในส่วนสุดท้าย ที่อยากจะนำเสนอเพื่อที่จะสนับสนุนกองทัพบก ในการที่เราก็ค้นพบเหมือนกันว่าทางกัมพูชานั้นได้มีการสร้าง ก็จะบอกว่าเป็นป้อมปราการของเขาในลักษณะของอุโมงค์ที่มีการสร้างอย่างประณีต และแข็งแรง ทำลายได้ยากสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราได้ค้นพบ เราได้เรียนรู้ แล้วถึงแม้ว่าเราจะทราบว่ามันเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติการทางทหารของเรา มันทำให้เราเนี่ยจะต้องประสบภาวะในการปฏิบัติการที่ยากลำบากมากขึ้น แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือว่ามันทำให้เราได้รู้ว่าเราจะทำอย่างไรกับเป้าหมายเหล่านี้ให้ดีกว่าเดิมและรวดเร็วกว่าเดิม แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในท้ายที่สุดแล้ว เราจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทางทหารในการที่จะสนับสนุนวัตถุประสงค์ทางด้านการทูตและด้านการเมืองของเราในที่สุด
Advertisement