
วันที่ 19 ธ.ค. 68 นาย ฮุน มานี ลูกชายคนเล็กของนาย ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ “Hun Many” ระบุว่า “เรามีความเชื่อมั่นและไว้วางใจอย่างเต็มที่ในผู้นำกัมพูชา และทหารผู้กล้าหาญของเราที่แนวหน้า อีก 9 วันนับจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะเข้าสู่เดือนที่ 7 อย่างสมบูรณ์ (28.05.25-28.12.25)”
“ทั้งสองประเทศได้อะไรจากความขัดแย้งนี้บ้าง นอกเหนือจากการทำลายล้าง การสูญเสียชีวิต การดำรงชีวิตที่ได้รับผลกระทบซึ่งจะต้องได้รับการฟื้นฟู รวมถึงอนาคตของเด็กๆ ของเราที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งนี้”
“กิจกรรม "เดินขบวนเพื่อสันติภาพ" เมื่อวานนี้ มีขึ้นเพื่อให้ทุกฝ่ายพิจารณาคำถามข้างต้น "หากไม่มีประโยชน์ต่อใครเลย ทำไมไม่ยุติความขัดแย้งนี้เสีย" การยืดเยื้อความขัดแย้งนี้จะก่อให้เกิดการทำลายล้างมากขึ้น ทำลายครอบครัวทั้งสองฝ่าย ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมากขึ้นทั้งสองฝ่าย และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ รวมถึงการดำรงชีวิตของประชาชนด้วย”
“เราเรียกร้อง "สันติภาพ" โดยรู้ว่าหลังจาก 7 เดือน สิ่งที่เกิดขึ้นได้ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ นำไปสู่ความโกรธและความไม่ไว้วางใจ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องใช้เวลาในการเยียวยา และนั่นคือเหตุผลสำคัญยิ่งกว่าที่ชาวกัมพูชาและชาวไทยต้องร่วมกันเรียกร้อง "สันติภาพ" เพื่อยุติความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ กลับไปสู่โต๊ะเจรจาตามที่ตกลงกันไว้ในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเยียวยาระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และก้าวไปข้างหน้าด้วยการปรองดองและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ดังที่เราได้กระทำมาหลายร้อยปีแล้ว”
"การเดินขบวนเพื่อสันติภาพ" ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อหาว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด แต่เป็นการมุ่งเน้นไปที่การสูญเสียชีวิต การทำลายล้างที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนและคนรุ่นอนาคตของทั้งสองราชอาณาจักร
Advertisement