
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตัดสินใจยุบสภาฯ ก่อนกำหนด ขอถามไปยังพรรคประชาชน ลงนาม MOA เสมือนตีเช็คเปล่าให้ ไม่มีวาระผูกมัดอะไร นอกจากจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญลูกเดียว ก่อนหน้ามีคำเตือนเพื่อนมิตร อย่าไปหวังอะไรมาก จะไม่ได้อะไรเลย สุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปไม่ถึงฝั่ง ไม่ทันเกมการเมือง ไม่เชื่อพรรคเพื่อไทยหยิบยื่นเงื่อนไขให้ตอนนั้น ยุบสภาฯ ทันที ไม่ฟังเสียงพรรคประชาธิปไตยด้วยกันที่เคยโหวตสนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ พรรคส้มเสียหน้า แต่ประเทศเสียหาย เสียโอกาส จะมาเปิดเวทีฟังพี่น้องระบาย ปลอบใจกันเองทำไม เพราะเรื่องมันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าไม่ทราบเหมือนกันตอนนั้นมีอะไรดลใจให้โหวตสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกฯ ตัวเองไม่เข้าร่วมรัฐบาล เหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว อีกฝ่ายเลยจัดทัพเลือกตั้งเต็มอัตรา ระดม สส. เข้าพรรค โยกย้ายข้าราชการ ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ อำนาจรัฐ กลไกปกครอง พรรคส้มสร้างตราบาป รอยด่างพร้อยทางการเมืองจะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ มองการเมืองโลกสวย ระวังพลาดครั้งนี้ไม่ใช่แค่รัฐธรรมนูญ แต่จะพังทั้งกระดาน ยังมีประเด็นของ 44 สส. แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ต้องไปตามลุ้นกันต่อจะเป็นอย่างไร หลังจากแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ตามเป้า MOA ถูกฉีก จากนี้จะมีข่าวทางลบ อะไรตามมาอีกหรือไม่
"นายอนุทิน ยุบสภาฯ ไปแล้ว หลายฝ่ายกางปฏิทินวันเลือกตั้ง 1 ก.พ. หรือ 8 ก.พ. 2569 รัฐมนตรีภูมิใจไทยบางคนผู้ทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ อ้างถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 104 เรื่องความไม่สงบการสู้รบ ไทย-กัมพูชา ถ้าไม่สามารถจัดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศวันเดียวได้ ทำให้ไม่ต้องจัดเลือกตั้งตามกรอบเวลาเดิม ถ้าอย่างนั้นนายอนุทิน จะรักษาการไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดอย่างนั้นหรือไม่ ขอถามนายอนุทิน ที่บอกยุบสภาฯภายใน 4 เดือน แต่ในวันนี้ ยุบเพื่อไปจัดเลือกตั้ง หรือ ยุบเพื่อหวังจะอยู่ยาวกันแน่ พอถูกถามถึงโยนให้เป็นหน้าที่ของ กกต. สัญญาณชักจะทะแม่งๆ ขอให้นายอนุทิน ปฏิบัติตามกฎหมายเดินหน้าเลือกตั้งตามไทม์ไลน์ 45-60 วันนับจากยุบสภาฯ อย่าขยิบตาให้ช่องทางพิเศษปล่อยให้การเลือกตั้งทอดยาวออกไป ไม่เช่นนั้นประชาชนจะพร้อมใจกันลงโทษสั่งสอนพวกฉวยโอกาสอย่างแน่นอน" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
Advertisement