
การประกาศยุบสภาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาหนักรอบด้าน ทั้งความตึงเครียดจากสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนกัมพูชาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ วิกฤตน้ำท่วมที่ทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากยังคงประสบความทุกข์ยากอย่างหนัก วิกฤตเศรษฐกิจฐานรากที่กำลังพังทลาย และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กดทับความเชื่อมั่นของประชาชนทั้งประเทศ
ผลกระทบจากการตัดสินใจครั้งนี้ยิ่งซ้ำเติมความไม่แน่นอนทางการเมือง และสะท้อนอย่างชัดเจนว่า พรรคการเมืองให้ความสำคัญกับประโยชน์ทางการเมืองของตนเองมากกว่าการทุ่มเทกำลังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังรอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
พรรครวมไทยสร้างชาติเห็นว่าการยุบสภาครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความจำเป็นของบ้านเมืองแต่เกิดจากผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองล้วนๆ โดยที่ฝ่ายหนึ่งมุ่งเป้าหมายที่จะแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้นไม่คำนึงถึงวิกฤตประเทศในปัจจุบัน ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการแค่หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ทั้งที่มีหน้าที่แก้ไขวิกฤติโดยตรง ข้อตกลงของสองฝ่ายทำให้การแก้ไขปัญหาวิกฤตประเทศสะดุดลง
วิกฤตประเทศในขณะนี้จำเป็นต้องใช้ความจริงจังและเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อแสวงหาอำนาจหรือผลประโยชน์ เราตั้งใจเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์เราพร้อมลงมืออย่างเด็ดขาดเพื่อนำประเทศออกจากวงจรความไม่แน่นอนและความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานเราพร้อมที่จะนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้และมีความพร้อมในการส่งผู้สมัครครบ 77 จังหวัด ทั่วประเทศ
Advertisement