
(4 ธ.ค. 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ค่อนข้างรุนแรงว่า ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดตั้งแต่ภาคเหนือลงมา เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค. 2568) มีการประชุมในส่วนของกระทรวงมหาดไทยให้มีการเตรียมการเรื่องพวกนี้ และให้ดำเนินการในเรื่องของการเข้มงวดกับการเผาเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วลดลงมาได้มากพอสมควร เพราะเราดำเนินคดีกับคนที่ไม่เชื่อฟัง ที่เป็นพวกเผาของแห้งจากสินค้าเกษตร ซึ่งปีที่แล้วช่วยได้เยอะ
นายอนุทิน ยังชี้ไปที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมระบุว่า ได้นายสุชาติมาทำหน้าที่ ก็ได้ย้ำกับท่านไว้แล้ว ซึ่ง นายสุชาติ ได้ยิ้มรับแล้วกล่าวว่า "เป็นภาระหน้าที่ผม"
เมื่อถามว่า ต้อง Work From Home หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มาตรการนี้ยังอยู่ แต่ส่วนใหญ่อยู่กับทางภาคเอกชน ถ้ามีความจำเป็น และเกิดประโยชน์ขึ้นเราก็ไม่ได้ห้ามเรื่องพวกนี้
ส่วนการเผาในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างไรบ้างนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาไปประชุมอาเซียน หรือประชุมในวงอะไร เราก็รวมประเด็นพวกนี้อยู่ในวงหารืออยู่แล้ว ซึ่งก็พูดอยู่ตลอดเวลา และเราเน้นในส่วนที่เราควบคุมได้คือ ภายในประเทศเราให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็จะเอาลดไปได้มาก และผู้ว่าราชการจังหวัดทางภาคเหนือ ในปี 2568 ได้ดำเนินมาตรการอย่างเต็มที่ และจุดร้อน (ฮอตสปอต) ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อถามว่า ช่วงเดือนมกราคมจะมีปริมาณฝุ่นเพิ่มมากขึ้นมีการประเมินว่า อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บอกแล้วว่า เตรียมตัวอยู่ตรงนี้
ส่วนจะมีการดึงข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีการบูรณาการร่วมกันอยู่ ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจษฐกิจและสังคม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งปริมาณฝุ่นในเดือนมกราคมก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งเราก็ต้องบูรณาการร่วมอยู่ได้
เมื่อถามว่า อยู่แบบมีอำนาจเต็มหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าทำงานในเรื่องของบริหารราชการแผ่นดินก็มีอำนาจเต็ม
ทั้งนี้เรื่องของการควบคุมฝุ่น อำนาจจะอยู่ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่เรื่องของการดำเนินคดี และการป้องกันอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย
อย่างไรก็ตามช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี มีอาการตาหยี ทำให้ต้องหรี่ตาหลายครั้ง จึงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขอโทษ พอดีไปหาหมอตามา และต้องหยอดยาขยายม่านตา ทำให้ตอนนี้มองอะไรก็เป็นสีขาวหมดเลย
Advertisement