
(4 ธ.ค. 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีภาพหลุดร่วมเฟรมกับ นายเบญจมิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ว่า ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าภาพถ่ายเมื่อไหร่ ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อวานที่ตนไปแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวก็ถามว่า ใครมีเส้น ใครมีสาย แต่สุดท้ายก็ตามกฎหมายหมดทุกอย่าง ส่วนรู้จักกับ นายเบน สมิธ เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้จักแต่ไม่สนิท พร้อมกับย้อนถามว่าปีนั้นปีอะไร นั่นแหละแค่เจอครั้งแรก
เมื่อถามว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แล้วแต่คิด โดยปกติ ตนไม่ได้ติดต่อมีธุรกิจธุรกรรมอะไรด้วยอยู่แล้ว พร้อมย้อนถามสื่อว่า "จำไม่ได้หรือว่าทำไมเขาถึงไม่ได้สัญชาติ"
เมื่อถามว่าการโพสต์ภาพครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีรัฐบาลหรือไม่ที่ไม่ให้สัญชาติไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาว่าเป็นมูลเหตุ พร้อมหัวเราะ
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าเป็นมูลเหตุที่ทำให้โดนปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า "ใช่ หนึ่งในข้อหาที่หนึ่งในข้อหาที่ผมโดนออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ใช่การปลดออกจากรัฐบาล แต่ให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแทน แต่ผมไม่เอา และขอถอนตัวออกจากรัฐบาล ต้องพูดกันให้แฟร์ๆ"
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้โดนปลดจากรัฐบาลสมัยที่แล้ว นำเสนอขอให้สื่อนำเสนอให้ชัดเจน เพียงแต่ได้รับการขอให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิเสธ
ส่วนจะเป็นเกมการเมืองพากันดึงให้ลงเหวกันทั้งหมดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องคิดวิเคราะห์ และแยกเรื่องให้ถูก
เมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนปล่อยภาพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "รู้หมดแหละ นักข่าวก็รู้ ใครก็รู้ทั้งนั้น"
ส่วนเรื่องการขยายผลแล้วออกหมายจับหมายจับสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องหมายจับต้องไปถามตำรวจ แต่ในแนวทางการสืบสวน เส้นเงินถึงใครก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ตนถึงบอกว่าปิดชื่อ ถือพฤติกรรม
ส่วนตอนที่ นายเบน สมิธ มานั้น ได้มาทำธุรกิจอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่ตนคุยกับเขา ก็เป็นความสัมพันธ์ที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน ว่ารู้จักหากถามว่ารู้จักหรือไม่ ตนรู้จัก เจอกันตามงานก็ทักทาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเจอกันกี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี หัวเราะ ร้องโห ถามอะไรกันขนาดนั้น
เมื่อถามว่าเคยเจอนายเบน สมิธกี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า เจอกี่ครั้งหมายความว่าอย่างไร เขาก็มีแวดวงมีอะไรอยู่ เจอในงานประมาณ 5-6 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายเบน สมิธ รู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี หัวเราะ ก่อนบอกต่อว่าพวกคุณก็เห็นรูปแล้ว จะมาเอาเรื่องอะไรจากรูปที่ถ่าย 7 ปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่กล้าปราบปรามพวกของนายเบน สมิธ อย่างจริงจังใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า "ผมหรือไม่กล้าแตะ You know me little go. รู้หรือเปล่าแปลว่าอะไร คุณรู้จักผมน้อยไป" ก่อนเดินเข้าประชุมทันที
Advertisement