Logo site Amarintv 34HD
Logo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กรอบท่าทีไทยประชุม CoP20 ควบคุมการค้าสัตว์ป่า–พืชป่าหายาก

กรอบท่าทีไทยประชุม CoP20 ควบคุมการค้าสัตว์ป่า–พืชป่าหายาก

25 พ.ย. 68
15:42 น.
แชร์

กรอบท่าทีไทยประชุม CoP20 ควบคุมการค้าสัตว์ป่า–พืชป่าหายาก เดินหน้าปราบลักลอบค้า–รักษาสมดุลสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เห็นชอบให้นำ “ร่างกรอบท่าทีของประเทศไทย” ต่อวาระการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 20 (CoP20) เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการเสนอเรื่องต่อ ครม.

การประชุม CoP20 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน -5 ธันวาคม 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน โดยมีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมประมง กรมวิชาการเกษตร เป็นต้น

ย้ำบทบาทไทยในเวทีโลก-ใช้ CITES สกัดค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า การกำหนดกรอบท่าทีของไทยต่อวาระการประชุม CoP20 มีเป้าหมายสำคัญ 3 ด้าน คือ ปกป้องทรัพยากรสัตว์ป่า–พืชป่าหายากของไทยและของโลก ลดและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่า–ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย รักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการค้าอย่างยั่งยืน ไม่ให้กระทบเศรษฐกิจและชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากร

สำหรับกรอบท่าทีของไทยครอบคลุมทั้ง “เอกสารเชิงนโยบายและการบริหารอนุสัญญา (Working Documents)” และ “ข้อเสนอเปลี่ยนแปลงบัญชีชนิดพันธุ์ (Proposals)” ที่จะต้องลงมติในที่ประชุม

ประเด็นสำคัญที่ไทยใช้สิทธิในที่ประชุม

คุมเข้มเต่าบก–เต่าน้ำจืด และการลักลอบค้า ไทยจะ “สงวนท่าที” ต่อร่างมติและข้อตัดสินใจเรื่องเต่าบก–เต่าน้ำจืด แม้เห็นด้วยกับการปราบปรามการค้าผิดกฎหมาย แต่ต้องพิจารณาผลกระทบต่อกฎหมายภายใน และความพร้อมด้านการบังคับใช้ในประเทศด้วย

จัดการสต็อกงาช้าง-ป้องกันสวมสิทธิ์งาช้างป่า โดยในประเด็นการจัดการสต็อกงาช้าง ไทยมีท่าที “สงวนท่าที” ต่อร่างมติที่อาจทำให้ต้องเพิ่มมาตรการควบคุมสต็อกอย่างเข้มงวดขึ้น เนื่องจากไทยยังมีการค้าภายในประเทศ และต้องป้องกันการนำงาช้างป่ามาสวมสิทธิ์เป็นงาช้างบ้าน ควบคู่กับการปราบปรามการลักลอบนำเข้า

เสือในกรงเลี้ยง-ลดความเสี่ยงสู่การค้าผิดกฎหมาย ในประเด็นสัตว์ตระกูลเสือในกรงเลี้ยง ไทยจะ “สงวนท่าที” ต่อข้อเสนอให้ประเทศที่มีฟาร์มเสือจำนวนมากต้องดำเนินมาตรการลดจำนวนเสือที่ไม่มีคุณค่าทางอนุรักษ์ เนื่องจากต้องประเมินผลกระทบต่อมาตรการในประเทศและภาคเอกชนอย่างรอบคอบ หากสนับสนุนอาจทำให้ไทยถูกกำหนดภาระเพิ่มเติม

ส่วน ข้อเสนอเปลี่ยนแปลงบัญชีชนิดพันธุ์ กรณีที่ข้อมูลชัดเจนครบถ้วน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของอนุสัญญา เช่น การปรับปลากระเบนแมนต้า–ปลากระเบนปีศาจบางชนิดจากบัญชี 2 ไปบัญชี 1 ไทยมีท่าที “สนับสนุน” เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในประเทศอยู่แล้ว

ข้อเสนอที่มีผลกระทบต่อการค้าและตรวจสอบแหล่งที่มายาก เช่น การบรรจุปลาไหลทุกชนิดในสกุล Anguilla ไว้ในบัญชี 2 ไทยมีท่าที “ไม่สนับสนุน” เนื่องจากอาจกระทบต่อการค้าและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และสร้างภาระด้านการตรวจพิสูจน์ชนิดพันธุ์

ข้อเสนอที่ไม่มีผลกระทบต่อไทย หรือไทยมีมาตรการคุ้มครองเข้มงวดกว่ามาตรฐาน CITES อยู่แล้ว เช่น การปรับสถานะเหยี่ยวเพเรกริน ไทย “สงวนท่าที” เพื่อลดความยุ่งยากในการอนุญาตนำเข้า–ส่งออกในอนาคต

แสดงบทบาทนำด้านอนุรักษ์ -ควบคู่การค้าถูกกฎหมาย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม CoP20 ครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะแสดงบทบาทในเวทีนานาชาติด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ควบคู่กับการพัฒนาระบบอนุญาตนำเข้า–ส่งออกให้เป็นไปตามพันธกรณีอนุสัญญา CITES อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับกฎหมายภายใน ทั้งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสกัดกั้นการลักลอบค้าสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าทุกช่องทาง พร้อมย้ำว่าทุกท่าทีของไทยใน CoP20 จะต้อง “ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของชาติ รักษาภาพลักษณ์ประเทศ และไม่ทิ้งภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องไว้ข้างหลัง”

Advertisement

แชร์
กรอบท่าทีไทยประชุม CoP20 ควบคุมการค้าสัตว์ป่า–พืชป่าหายาก