
1. วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2568) กองบัญชาการกองทัพไทยได้ออกประกาศเปิดเผยรายงานผลการตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย (ASEAN Observer Team-Thailand: AOT-TH) ต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผลยืนยันชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ที่ถูกฝังใหม่
2. จากการลงพื้นที่ของคณะ AOT-TH การประเมินองค์ประกอบแวดล้อมต่าง ๆ และจากการที่พื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวเคยเป็นฐานปฏิบัติการของกองทัพกัมพูชาในช่วงการปะทะ พบว่า ทุ่นระเบิด PMN-2 ถูกฝังในห้วงสถานการณ์ความตึงเครียดล่าสุด ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่ตกค้างตามคำชี้แจงของฝ่ายกัมพูชา นอกจากนี้ คณะ AOT-TH ได้ตรวจสอบพิกัดจุดพบทุ่นระเบิดทุกจุดด้วยระบบ GPS ของโทรศัพท์มือถือ ร่วมกับแผนที่ภูมิประเทศอย่างเป็นระบบ ซึ่งยืนยันว่า ทุกตำแหน่งอยู่ในดินแดนของไทย
3. การจัดให้คณะ AOT-TH ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ในเวลาอันรวดเร็วภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ย้ำความโปร่งใสของฝ่ายไทยที่เปิดให้กลไกอิสระเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นกลาง บนพื้นฐานของหลักทางวิทยาศาสตร์และหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังคงพยายามบิดเบือนข้อมูลต่อประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่จริงใจในการหาทางออกอย่างสันติร่วมกับไทย
4. ประเทศไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้กรอบอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention: APMBC) หรืออนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) และยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามทุกข้อตกลงภายใต้กรอบกลไกทวิภาคีทุกกรอบ โดยยึดหลักสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ในขณะเดียวกัน พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด
Advertisement