
วันที่ 20 พ.ย. 68 ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) วังเดิม กทม. พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์กรณีบ้าน 3 หลัง บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด จัดการเรียบร้อยหรือไม่ว่า การปฏิบัติการทางทหารที่ผ่านมา ต้องเข้าใจว่ารับคำสั่งเท่าไหร่ก็จะทำเท่านั้น ครั้งที่แล้ว เรารับคำสั่งไป 3 หลัง ก็ทำไป 3 หลัง แต่ครั้งนี้ถ้ามีการปฏิบัติก็จะดำเนินการเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเพียงแนวคิด ไม่ใช่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะไปดำเนินการ ถ้ามีความจำเป็นเราก็จะสามารถดำเนินดารตามที่รัฐบาลกำหนด
ส่วนอดีตอาคารกาสิโนที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างล้ำมาเขตแดนไทย บริเวณรอยต่อเมืองทมอดา จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา กับ บ.ท่าเส้น อ.เมือง จ.ตราด หลังมีรายงานว่าฝ่ายไทยจะให้กัมพูชารื้อทั้งหมด ผบ.ทร. กล่าวว่า ตามหลักการใครสร้างใครรื้อ เมื่อเขาสร้าง เขาก็ต้องรื้อ แต่ถ้าเขาไม่รื้อ และบอกให้เรารื้อ ซึ่งตามหลักการเรารื้อ เราก็ต้องเรียกร้องค่าใช้จ่ายจากเขา
เมื่อถามว่า ทางฝ่ายกัมพูชาส่งสัญญาณว่าจะรื้อเองหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ในระดับสูงกำลังคุยกันอยู่ ของทร. ขอกำหนดขอบเขตการกฏิบัติของกองทัพอยู่ในปฏิบัติการยุทธวิธีในการรักษาพื้นที่รักษาแนว
ขณะที่ พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีพื้นที่บ้าน 3 หลัง ทางกองทัพเรือยังคงห่วงใยและกังวล ภายหลังรื้อบ้าน 3 หลัง ได้ตรวจพบการวางกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่เข้ามา มีการขุดคูเลตเพิ่ม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สูง แต่ฝ่ายไทยอยู่ด้านล่าง จึงเข้าไปลำบาก โดยสิ่งที่ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ทำอยู่ จากความร่วมมือประชาชน จ.ตราด ได้ทำถนนเข้าไปประชิด เหตุผลการทำถนนเพื่อปฏิบัติการทางยุทธวิธี และจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน ส่วนการผลักดันฝ่ายตรงข้ามนั้น เรายังคงใช้การเจรจา แต่การเจรจาไม่ได้พูดคุยเพียงอย่างเดียว มีวิธีจากเบาไปหนักขึ้น เรายื่อข้อเสนอให้เขาไปหลายเรื่อง ถ้าเขาสะดวกจะย้ายออก เรายินดีให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ขยับออกไป ตอนนี้เราพยายามทำให้เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายไทยไม่ต้องการสร้างแรงกระเพื่อมในพื้นที่ ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่บานปลายไปมากกว่านั้น
เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายไทยรื้อบ้าน 3 หลังไปแล้ว และฝ่ายกัมพูชากลับเข้ามาใช่หรื่อไม่ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กลับเข้ามา ส่วน 3 หลังที่เหลือ เป็นเรือนบริวาร ใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ถ้าดูจากกูเกิลแมพ เราจะเห็นว่าเป็นเพิง แต่บ้านหลังใหญ่ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างอาคาร บ้านคอนกรีต 3 หลัง รื้อไปหมดแล้ว
เมื่อถามว่าที่ฝ่ายไทยเข้าไปไม่ได้เกิดจากที่ฝ่ายกัมพูชาวางทุ่นระเบิดด้วยหรือไม่ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า มาจาก 2 เหตุผล คือ พื้นที่เขาถึงลำบาก ก่อนที่จะมีการทำถนนเข้าไปในขณะนี้ เป็นพื้นที่ป่าดิบ ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นชัดว่าฝั่งกัมพูชาเป็นพื้นที่ราบสูง เขาถึงได้ง่าย แต่ฝั่งไทยเข้าไปจะเป็นป่าทึบทั้งแนว ซึ่งเราเจาะถนนเข้าไปแล้ว แต่สิ่งที่เราเจอในพื้นที่เต็มไปด้วยวัตถุระเบิดและทุ่นระเบิด เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งเรากังวลและไม่อยากให้มีรายถัดไป จะทำให้ความตึงเครียดในพื้นที่มากขึ้น
หากเทียบกับภูมิประเทศจะคล้ายกองทัพภาคที่ 2 ในบางพื้นที่ที่เป็นเนิน ใครอยู่ได้สูงกว่า ก็จะเห็นด้านล่าง ซึ่งในพื้นที่ของกอทร. เราอยู่ด้านล่าง ก็ค่อนข้างเสียเปรียบ และการเข้าถึงพื้นที่ ซึ่งฝ่ายเขาเป็นที่ราบ การเพิ่มเติมกำลัง จะค่อนข้างง่าย แต่ฝ่ายเราจะยากกว่า โดยเฉพาะอาวุธหนัก
Advertisement