Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เหยื่อสาวร้องถูกคนขับรถแอปดัง ล่วงละเมิด หวังขืนใจ

เหยื่อสาวร้องถูกคนขับรถแอปดัง ล่วงละเมิด หวังขืนใจ

20 พ.ย. 68
10:43 น.
แชร์

เหยื่อสาววัย 19 ปี ถูกคนขับรถโดยสารแอปฯดัง ล่วงละเมิดใช้นิ้วสอดอวัยวะเพศ เข็มขัดนิรภัยมัดหวังขืนใจ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 68 น.ส.อริสรา อายุ 19 ปีสาวอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล หรือ “เสี่ยเป้บางกรวย” ผู้ก่อตั้งเพจ “เป้บางกรวย-นนทบุรีไม่ทิ้งกัน”

น.ส.อริสรา ผู้เสียหาย อ้างว่า ขณะกำลังเดินทางไปร้านสักได้ถูกคนขับรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันBolt ล่อลวงลวนลามและพยายามข่มขืนระหว่างเดินทางจากหอพัก บริเวณถนนจันทน์ 24 เพื่อไปยังร้านสักลาย ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ระยะทางจากหอพักไปร้านสักลาย ประมาณ 23 กม.

แต่ระหว่างทางขณะนั่งรถ คนขับพยายามหว่านล้อม หลอกชวนให้ไปโรงแรม เมื่อใกล้ถึงร้านลาย คนขับได้จอดรถก่อนปีนจากเบาะคนขับมาด้านหลังใช้มือสอดใต้กระโปรง และกางเกงขาสั้น ล่วงละเมิดผู้เสียหาย ใช้นิ้วลวนลามอวัยวะเพศ จับกดกับเบาะพร้อมใช้เข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารพยายามรัดตัวเพื่อข่มขืน แต่ผู้เสียหายดิ้นหนีได้ทัน รีบวิ่งออกจากรถไปขอความช่วยเหลือจากร้านสัก ขณะที่ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto3 สีเทา ทะเบียนไม่ทราบหมวดจังหวัดขับหลบหนีไปทันที

น.ส.อริสรา เปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่10 ก.ย.68 เวลาประมาณ 13.00 น. ตนเรียกรถจากถนนจันทน์ 24 มาบางกรวย แต่สังเกตว่าคนขับจอดรถไม่ตรงตามหมุดที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก พอขึ้นรถคนขับก็เริ่มพูดชวนคุยและชมเชยต่างๆ เช่น “ชอบหนูนะหนูน่ารักหนูสวยหน้าตาเหมือนลูกครึ่ง” พร้อมหลอกล่อชวนไปที่พักของตนเอง ทั้งที่ยอมรับว่ามีภรรยาอยู่แล้ว ผู้เสียหายปฏิเสธตลอด แต่เมื่อใกล้ถึงร้านสัก คนขับกลับจอดรถกลางทางแล้วพูดว่า“ขอจอดตรงนี้ได้ไหม” ผู้เสียหายจึงตอบตกลงระหว่างกำลังหยิบกระเป๋าสตางค์ เพื่อจ่ายค่าโดยสารคนขับกลับถามว่า “ขอดูรอยสักได้ไหม” ก่อนปีนข้ามมาจากเบาะหน้าไปยังเบาะหลังทันทีจากนั้นเอามือล้วงใต้กระโปรงลูบต้นขาและสอดนิ้วเข้าไปในอวัยวะเพศพร้อมใช้มืออีกข้างจับกดไว้ที่เบาะ และยังจับหน้าอกอย่างรุนแรงก่อนเอามือไปดึงเข็มขัดนิรภัยพยายามรัดตัวเพื่อข่มขืน ผู้เสียหายร้องไห้ดิ้นหนีคนขับจึงหยุดและพูดว่า “แค่นี้เหรอจะไปต่อโรงแรมกันไหมเดี๋ยวพี่พาไปจอดโรงแรมให้” แต่ผู้เสียหายไม่เอาด้วยและรีบขอลงจากรถซึ่ งรถรุ่นดังกล่าวเป็นรถไฟฟ้าที่ผู้โดยสารไม่สามารถปลดล็อกประตูเองได้ ต้องรอให้คนขับปลดล็อกจากปุ่มเซ็นทรัลล็อก ทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัวอย่างหนัก เมื่อคนขับกดเปิดประตูผู้เสียหายรีบวิ่งไปที่ร้านสักทันที คนขับจึงขับหนีออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว

ต่อมาตนเองและเจ้าของร้านสัก ได้โทรติดต่อคนขับผ่านระบบโทรศัพท์ของแอปBolt ซึ่งคนขับรับสาย และพูดเพียงว่า“ขอได้ไหมขอได้ไหม” พร้อมปฏิเสธทุกอย่าง อ้างว่าผู้เสียหายและเจ้าของร้าน“ฟังความข้างเดียว” ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่สภ.บางกรวยทันทีโดยในวันเดียวกัน ได้ถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางกรวย ขณะรอตรวจร่างกายตำรวจโทรแจ้งว่า ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้ว ขอให้ผู้เสียหายมาชี้ตัว แต่ตนยังอยู่ในขั้นตอนตรวจร่างกายและรู้สึกกลัวอยู่ ยังไม่พร้อมเจอหน้า จึงขอให้ตำรวจถ่ายรูปไว้ก่อน และจะตามไปชี้ตัวภายหลัง พร้อมนำเสื้อผ้าในวันเกิดเหตุมามอบให้ตรวจ ซึ่งตำรวจแจ้งว่าผลตรวจร่างกายและเสื้อผ้าอาจใช้เวลาถึง 2–3 เดือน ทำให้ตอนนี้มีความกังวลเรื่องคดีคดี และเกิดความหวาดระแวงอย่างหนักลบแอปBolt ออกจากโทรศัพท์ทันที  ก่อนจะนำเรื่องมาร้องเรียน อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านนายโชติอนันต์ หรือ “เสี่ยเป้บางกรวย” ระบุว่าจากข้อมูลที่ฟังมาผลชันสูตรตรวจร่างกายไม่น่าจะใช้เวลานานถึง 2–3 เดือน ปกติไม่ควรเกิน 1 เดือน พร้อมยืนยันว่าจะติดตามคดีให้ถึงที่สุดและประสานกับร้อยเวรและผู้กำกับการเพื่อเร่งรัดสำนวนเพราะพฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้คนขับแอปดีๆเสื่อมเสีย  “คนพวกนี้ต้องเอาออกจากสังคมเราทำงานสุจริตกันอยู่ไม่ควรมีคนแบบนี้มาทำให้วงการเสียหายเดี๋ยวกูจะเอามึงเข้าคุกให้ได้”

ขณะที่นายศุภณัฐ แท่งทอง หรือ “แน๊ค” อายุ 32 ปี เจ้าของร้านSmoothTattoo พลเมืองดีที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 13.00 น.ผู้เสียหายได้เปิดประตูร้านวิ่งเข้ามาร้องไห้จนคิดว่าอาจทะเลาะกับแฟน ก่อนผู้เสียหายบอกว่าถูกคนขับBoltพยายามข่มขืน ตนจึงเปิดประตูร้านไปดู แต่รถคันดังกล่าวขับหลบหนีไปแล้วจากนั้นพยายามติดต่อคนขับผ่านแอป ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธทุกอย่างและอ้างว่ากลัวถูกทำร้าย ตนจึงพาผู้เสียหายไปแจ้งความและไปตรวจร่างกายจนเสร็จในเวลา 19.00 น.ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้น่าประณามมาก และเป็นช่องโหว่สำคัญของบริการรถผ่านแอปที่อาจมีการสวมรอยบัญชีผู้อื่นมาขับจริง ทำให้ตรวจสอบประวัติที่อยู่และข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับไม่ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมซ้ำได้หากวันนั้นผู้เสียหายหนีไม่ทันอาจถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารต่อระบบแอปเรียกรถลดลงอย่างมาก

 

Advertisement

แชร์
เหยื่อสาวร้องถูกคนขับรถแอปดัง ล่วงละเมิด หวังขืนใจ