
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าค่าลิขสิทธิ์การจัดแข่งขัน MotoGP 2025 ถึงแพงขึ้นเป็นเท่าตัว ว่า เรื่องนี้ต้องไปสอบถามทางผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เพราะเรื่อง MotoGP ผู้ที่ทำเรื่องเสนอขึ้นมาคือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นคู่สัญญา มีการพูดถึงเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางกีฬา
เมื่อถามว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับนายเนวิน ชิดชอบ ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบกลับทันทีว่า “มันไม่เกี่ยวนิ” ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า นายเนวิน เป็นเจ้าของสนามช้างอารีน่า ที่จะใช้จัดการแข่งขัน MotoGP นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวต่อว่า ก็ต้องมีเรื่องสัญญา แต่เท่าที่ตนทราบ ก็ขาดทุนมาโดยตลอด
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะทบทวน จัดการแข่งขัน F1 และ เทศกาลดนตรี “ทูมอโรว์แลนด์ ” นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าต้องดูตามความเหมาะสมพร้อมย้อนถามงบประมาณในการจัดการแข่งขัน มอต้จีพีอยู่ที่สามถึง 4,000 ล้านบาท ขณะที่ F1 ใช้งบ 40,000 ล้านบาท ดังนั้น ขอให้ไปถาม F1 ก่อนค่อยมาถาม MotoGP แล้วอันไหนที่มันทำได้เลย และมีความพร้อมอยู่แล้ว
ส่วนเหตุผลทำไมต้องเป็นรัฐบาลนี้ ไม่รองรัฐบาลหน้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว พร้อมได้ยกมือชี้นักข่าวว่าอย่าถามแบบนี้สิ เพราะถามแบบนี้เหมือนกับการหาเรื่อง ซึ่งไม่ได้เป็นการหาเรื่องตน แต่เป็นการหาเรื่องให้ประชาชนเข้าใจผิด และย้ำว่า ไม่ใช่รัฐบาลนี้ แต่มันเริ่มมาตั้งแต่สมัยของรัฐบาล คสช. ด้วยซ้ำ ปีแรกตนยังไปดูตอนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปเปิดงาน และก็ถูกเลื่อนมา ซึ่งถูกรัฐบาลก็ให้การสนับสนุน รวมถึงรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
การที่มาถามว่าทำไมต้องเป็นรัฐบาลนี้ มันไม่ใช่ ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า จะอธิบายประชาชนได้หรือไม่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ ของคนใดคนหนึ่ง นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า ประโยชน์คือคนๆ นั้นต้องได้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด ทุกอย่างไปรวมอยู่ตรงนั้นหมด แต่เท่าที่ทราบก็ต้องใช้สนามตามข้อตกลง เพราะ MotoGP จะไปแข่ง ที่สนามซุปเปอร์ไฮเวย์ ก็ไม่ได้ ซึ่งจังหวัดอื่นมีสนามแบบนี้ก็ต้องมีการนำเสนอ ข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้วไปทำที่นั่น แต่ทุกปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยที่ตนกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทราบว่าเปิดคุณค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 4,000 ต่อปียังไม่รวมเรื่องการท่องเที่ยวและผลพลอยได้ของจังหวัดข้างทาง ซึ่งมีผลพลอยได้ไปถึงจังหวัดสุรินทร์ นครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งโรงแรมและห้องพักก็เต็มหมดในช่วงระหว่างการแข่งขัน รวมถึงเรื่องการค้าขาย ที่ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งก็เห็นว่ามีความคึกคักและก็ได้รับรายงานว่ามีความคุ้มค่ากับการที่รัฐบาลได้โปรโมทกีฬาประเภทนี้ ซึ่งทำมาหลายรอบแล้ว
Advertisement