
วันที่ 17 พ.ย. 68 ที่จ.พระนครศรีอยุธยา จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม นำทีมผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ เพื่อร่วมดูแล เยียวยา และวางมาตรการป้องกันความเดือดร้อนของประชาชนแบบครบวงจร หลังจากกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับการประสานงานเชิงรุก จาก นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงสถานการณ์อุทกภัยที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อพี่น้องชาวอยุธยา
โดยลงพื้นที่ ตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน ทั้งในเขตชุมชนทั่วไปและพื้นที่อพยพยาก เช่น “บ้านดาบ” ซึ่งประชาชนจำนวนมากต้องพายเรือออกจากบ้านที่ถูกน้ำล้อมเพื่อมารับถุงยังชีพ กว่า 400 ครัวเรือน ได้รับถุงยังชีพและน้ำดื่มจากกระทรวงอุตสาหกรรมในครั้งนี้ โดยมี นายกสมทรง และผู้นำท้องถิ่นร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิด แสดงถึงความร่วมมือที่เหนียวแน่นของรัฐกับพื้นที่
ทั้งนี้รมช.อุตสาหกรรม ย้ำชัดระหว่างลงพื้นที่ว่า “ขอให้ทุกโรงงานหยุดการปล่อยน้ำเสียในช่วงน้ำท่วมทันที เพื่อไม่ให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้าน ถ้าโรงงานไหนทำผิด ประชาชนแจ้งได้ทุกช่องทาง นโยบายของผมคือ ปิดเร็ว–เปิดเร็ว–พึ่งพาได้”
พร้อมสั่งให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จัดระบบเฝ้าระวังรอยรั่วน้ำเสียแบบเข้มงวด รวมถึงให้สถานประกอบการในพื้นที่ร่วมทำ CSR สนับสนุนคชาชีพผู้เดือดร้อนและช่วยงานท้องถิ่น เช่น วางกระสอบทราย ทำทางสัญจรชั่วคราว และจัดทีมช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ–ผู้พิการ
จ่าเอก ยศสิงห์ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของท้องถิ่น โดยเฉพาะนายกสมทรงว่าเป็นผู้นำที่ห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง และกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมเคียงข้างอย่างเต็มที่
“ทันทีที่นายกสมทรงแจ้งว่าชาวอยุธยาเดือดร้อน ผมรีบมาทันที เพราะเราคือทีมเดียวกัน ทีมของประชาชน หน้าที่ของรัฐคือไม่ปล่อยให้ประชาชนสู้ลำพัง”
นอกจากนี้ กระทรวงยังเตรียมจัดตั้ง “อาสาสมัครอุตสาหกรรม” เปิดให้ทุกอาชีพเข้าร่วม เพื่อเป็นเครือข่ายแจ้งเหตุและช่วยดูแลโรงงาน–ชุมชนในสถานการณ์วิกฤต
หนึ่งในภาพที่สะท้อนการทำงานอย่างจริงใจ คือช่วงที่ชาวบ้านบ้านดาบต้องพายเรือมารับถุงยังชีพ และจ่าเอกยศสิงห์เดินลุยน้ำลงไปช่วยขนถุงยังชีพมอบให้เอง
ด้านประชาชนจำนวนมาก กล่าวว่า “ดีใจที่รัฐบาลไม่ทิ้งพื้นที่ น้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้รู้สึกว่ามีคนเห็นความลำบากของเราเร็วกว่าเดิม”
Advertisement