
วันที่ 15 พ.ย. 68 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้แก่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรฯ, นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจราชการใน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และความคืบหน้าโครงการก่อสร้างด้านชลประทาน
โดยคณะได้เข้าตรวจจุดก่อสร้าง โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำท่าจีนเชื่อมคลองสูบน้ำ โรงพยาบาลห้วยพลู หมู่ 2 ก่อนเดินทางต่อไปยัง วัดใหม่สุคนธาราม เพื่อตรวจพื้นที่ก่อสร้าง โครงการประตูระบายน้ำคลองพระน้อย โดยมี สส.ราชบุรี พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้แก่ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ และนายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ อดีต สส.นครปฐม พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ
โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้พบปะกับประชาชน และมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า ตนได้เดินทางไปนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปสู่รัฐ แต่มณฑลต่างๆ ของจีน และประเทศต่างๆ เพื่อเจรจาเปิดตลาดสินค้าทางการเกษตร จึงขอฝากเกษตรกรชาวนครปฐมที่ปลูกส้มโอ มะพร้าวน้ำหอม และกล้วยไม้ รวมถึงเรื่องสุกรจะมีมาตรการที่กำลังจะทำตามนโยบายควิกวิน เพื่อขยายตลาดส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการประตูระบายน้ำ–สถานีสูบน้ำโรงพยาบาลห้วยพลู ที่ประชาชนเรียกร้องมา ตนจะใช้เงินเหลือจ่ายปี 2569 จำนวนประมาณ 20 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างได้ทันทีหลังแบบเสร็จในเดือนธันวาคม ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมเรื้อรังในพื้นที่ โดยระบุโรงพยาบาลห้วยพลูได้รับผลกระทบมานาน ต้องเร่งแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้งบประมาณดังกล่าวได้อนุมัติแล้วเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา สามารถดำเนินการได้ทันที
ด้านการบริหารจัดการน้ำ ร.อ.ธรรมนัส กล่าว่า ตอนแรกเราเข้าใจว่าพายุตัวสุดท้ายคือเจ้าบัวลอยน่าจะจบแล้ว แต่ก็ยังมีตัวใหม่มา กรมชลประทานมีศูนย์บริหารจัดการน้ำอัจฉริยะที่สามารถประชุมออนไลน์และสั่งการได้ทันทีในทุกจังหวัด การบริหารจัดการน้ำหัวใจมันอยู่ที่นั่น เราสั่งการไปทั่วประเทศได้เลย และเราจะรู้ข้อมูลจริง ๆ ว่า ปริมาณน้ำทั้งหมดมีเท่าไหร่ ฉะนั้นเวลาพูดกัน ไม่ว่า หน่วยงานใดก็ตาม ถ้าไม่มีข้อมูลบทข้อเท็จจริงแล้วมันจะ ทำให้เกิดความสับสน เกิดความกังวลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต ตนในฐานะกำกับดูแลกรมชลประทานซึ่งเป็น หน่วยงานปฏิบัติการต้องรู้ว่า มวลน้ำมีปริมาณเท่าไหร่ แล้วเราจะต้องสั่งการอย่างไรให้มันเป็นระบบ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อถึง ส่วนของลำน้ำสาขาต่างๆ ที่มีความตื้นเขิน โดยอยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่าว่า ตนได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และท่านก็เห็นชอบว่า จะให้กรมชลประทานที่มีความพร้อมร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม ไม่ว่าจะเป็นหน่วยทหารช่างที่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการขุดลอก ตนก็จะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรไปเจรจาหารือถึงการดำเนินการโดยทันทีที่กระทรวงคมนาคมส่งมอบพื้นที่ให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการทันที
Advertisement