
วันที่ 12 พ.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีรายงานว่า ทหารไทยพบระเบิดทีเอ็น-21 ในบังเกอร์ของทหารไทย ซึ่งคาดว่าทหารกัมพูชาเข้ามาลักลอบวางระเบิด ที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่ที่ได้เห็นกับตาเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ทุ่นระเบิดที่วางไว้อยู่ในเขตไทยแน่นอน และไม่ใช่ทหารไทยวางแน่นอน เพราะไทยไม่มีของเหล่านี้
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทุ่นระเบิดที่วางไว้จากการตรวจสภาพทางธรณีวิทยา และเทคโนโลยีต่างๆ ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดที่วางไว้เมื่อวานนี้ ถูกวางหลังจากการลงนามปฏิญญาสันติภาพ ที่ประเทศมาเลเซียไปแล้ว ถือว่าปฏิญญานี้ไม่มีผล คนที่เป็นคู่ปฏิญญาไม่ปฏิบัติตาม
ส่วนที่ฝ่ายค้านเสนอให้นายกรัฐมนตรี โทรหานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อแจ้งเรื่องนี้ก่อนที่ทางการกัมพูชาจะโทรไปหานั้น นายอนุทิน ระบุว่า ตนได้พูดกับสื่อไปแล้วหลายครั้ง คงไม่ต้องพูดอีกว่า “ไม่โทรแล้วครับ” กดเพลย์เมื่อไหร่ก็เห็นข้อความของนายกรัฐมนตรีไทยต่อเรื่องนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้จะนำไปสู่การยกเลิก MOU 43-44 ง่ายขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า MOU 44 เกี่ยวกับทางทะเล ตอนนี้ยังไม่ดำเนินอะไรไป ตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องถามแบบนี้ เพราะในนโยบายของรัฐบาล ทั้ง 43-44 รัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายที่จะดำเนินการต่ออยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาบอกว่าการที่กัมพูชาเข้ามาก่อเหตุ เพื่อตั้งใจเบี่ยงเบนไม่ให้ทางการไทยปราบสแกมเมอร์ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกัน เรื่องสแกมเมอร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้รับเรื่องไป ซึ่งจับเยอะ รวมถึงยึดทรัพย์ และดำเนินคดี อีกทั้งยังมีการส่งคืนผู้ร้ายข้ามแดนไปแล้ว ถอนสัญชาติ และยึดอายัดทรัพย์เพิ่มอีกด้วย ตนก็ต้องเชื่อในข้อมูลที่มีอยู่ ที่ไม่ใช่ข่าวลือหรือความกังวลของใคร แต่เป็นการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมายังตนโดยตรง
ส่วนที่สื่อกัมพูชา ตีข่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บขาขาดจากการเหยียบทุ่นระเบิด แล้วร้องไห้ เป็นน้ำตาจระเข้นั้น นายกรัฐมนตรี หัวเราะ พร้อมย้อนถามว่าใครพูด ก่อนกล่าวว่า “No Comment ไม่ใช่น้ำตาจระเข้ คอยดูจระเข้มันงับที อย่าหางจุกตูดก็แล้วกัน”
Advertisement