
สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชารายงานข่าว วันนี้กองทัพกัมพูชาได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายกระสุนและอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้งบริเวณชายแดนจังหวัดอุดรมีชัย กลับไปยังที่ตั้งหน่วย ถือเป็น “ขั้นตอนที่สองในระยะที่หนึ่ง” ตามแผนปฏิบัติการที่ได้ลงนามร่วมกันระหว่าง พลเอก โปว เฮง ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา และ พลโทวีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาค 2 ของไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025
โดยสื่อกัมพูชาระบุว่า กัมพูชาและไทยได้ดำเนินการ “ปรับเคลื่อนและถอนอาวุธหนัก” ออกจากแนวชายแดน โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team – AOT) เข้าร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบความโปร่งใสตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเคลื่อนย้ายจนถึงฐานปลายทาง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ทั้งสองประเทศได้เสร็จสิ้น “ขั้นตอนแรกของระยะที่หนึ่ง” ซึ่งเป็นการปรับอาวุธและทำลายอาวุธหนักบางส่วน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนเช่นเดียวกัน
กัมพูชายืนยันว่าจะยังคงทำงานร่วมกับฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเป็นไปอย่างครบถ้วน ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส
สำหรับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณแห่งความปรารถนาดี และสะท้อนถึง “ความมุ่งมั่นแน่วแน่ของกัมพูชา” ในการปฏิบัติตาม “ถ้อยแถลงร่วมกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย” ที่ได้ลงนามโดย สมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ของไทย โดยมี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กัมพูชายังได้แสดงความหวังอย่างแรงกล้าว่า ทั้งสองประเทศจะดำเนินการตาม “ถ้อยแถลงร่วมว่าด้วยสันติภาพ” ฉบับดังกล่าวอย่างเต็มที่และจริงใจ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และการฟื้นฟูสู่ภาวะปกติโดยเร็วในภูมิภาคนี้
Advertisement