
(8 พ.ย. 2568) นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก "MotoGP" อีก 5 ปี วงเงินงบประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วย ที่รัฐบาลจะใช้มหกรรมการกีฬาขนาดใหญ่ดึงดูดและเพิ่มรายได้ภาคการท่องเที่ยว เราเคยผลักดันโครงการใหญ่ๆเช่นโครงการ F1 จึงเข้าใจดี แต่ควรจะมีผลการตอบแทนที่เหมาะสม เพราะเป็นการใช้ภาษีของประชาชนเข้าไปสนับสนุนโครงการ จึงควรมีผลตอบแทนให้กับประชาชนและประเทศ ในช่วงที่ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล งาน MotoGP ต้องใช้ภาษีสนับสนุนมากขึ้นทุกปี ต้องเบียดเบียนงบประมาณจากหลายหน่วยงานเพื่อให้เพียงพอ เพื่อให้สามารถจัดงานต่อได้ เนื่องจากถูกผูกมัดสัญญาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่า ต้องการตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลก่อนหน้านี้ พรรคการเมืองพรรคใดที่ดูแลเรื่องกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขจะเห็นว่าพรรคเอกชน เข้ามาสนับสนุนการจัดงานน้อยลงเรื่อยๆ ตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกว่า การประมาณการของผู้เข้าชมที่มีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ คำถามก็คือตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกเราว่าคืออะไร หรือเป็นเพราะว่าตัวเลขประมาณการผู้เข้าชมที่หน่วยงานรัฐบาลเสนอบอกชัดเจนว่า ผู้เข้าชมน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้ตัวเลขผลตอบแทนทางเศรษฐกิจน้อยลง ถึงขั้นที่จะไม่คุ้มค่าให้การสนับสนุนหรือไม่
ขณะเดียวกันตัวเลขที่หน่วยงานราชการทำขึ้นมา ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เขียนไว้ ชัดเจนว่า มีผู้เข้าชมสูงสุดในปี 2568 จำนวน 224,000 คน และจะลดลงเหลือ 200,000 คน และปีสุดท้าย 2575 ตัวเลขสูงสุดจะอยู่ที่ 220,000 คน ซึ่งหน่วยงานราชการก็มีการประเมินว่าผู้เข้าชมลดลง ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ตัวเลขผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงสุด 5,000 ล้าน แต่ประมาณการไปข้างหน้าลดลงแค่ 4,000 ล้าน ซึ่งตัวเลขบอกชัดเจนว่าผู้เข้าชมมีจำนวนน้อยลง และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจน้อยลง ภาคเอกชนจึงถอยออกไป
นายศึกษิษฏ์ นังตั้งคำถามถึงรัฐบาล ทั้งรายได้และผู้ชมลดลง แต่เหตุใดรัฐบาลยังให้การสนับสนุนของรัฐเพิ่มขึ้น ขณะนี้หากดูตัวเลขการสนับสนุน MotoGP กระโดดขึ้นจากรอบที่ผ่านมากกว่า 50% โดยรอบที่ผ่านมาใน 5 ปีสัญญาค่า 50 ล้านยูโร และในปีที่ผ่านมาค่าลิขสิทธิ์กระโดดไปเป็น 77 ล้านยูโร จึงอยากตั้งคำถามว่าหรือเป็นเพราะว่าสัญญานี้ อาจจะเป็นการใช้เป็นตัวประกัน เพราะพื้นที่สนามจัดแข่ง อยู่ในพื้นที่พิพาทดับรัฐในพื้นที่เขากระโดง จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า ถ้ามีการเพิกถอน ขับไล่ผู้ที่บุกรุกพื้นที่รัฐ จะนำสัญญานี้มาเป็นตัวประกันหรือไม่ เพื่อไม่ให้ขับไล่ได้ เพราะมีสัญญาผูกพันอยู่ นี่จึงเป็นสาเหตุ ทำไมรัฐบาลที่ผ่านมาจึงยอมจ่ายเท่าไหร่ก็ต้องยอม เพื่อผูกมัดตรงนี้ไว้ โดยจ่ายค่าตอบแทนให้กับต่างชาติจำนวนสูง เพื่อไม่ให้รัฐบาลขับไล่ นำพื้นที่ของรัฐคืนมาได้ใช่หรือไม่
นายศึกษิษฏ์ ยังกล่าวว่า หากดูการกระทำกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง คำถามอยู่ในตัวของมันเอง สิ่งที่รัฐบาลทำไป ทำไปเพื่ออะไร หรือเพื่อใครกันแน่ แต่อย่างไรก็ตามตนอยากฝากประชาชนและสื่อมวลชนติดตามเรื่องนี้ เพราะมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากมีการลงนามสัญญาไปแล้ว 5 ปี แม้ว่ารัฐบาลสัญญาอยู่แค่ 4 เดือน จึงอยากตั้งคำถามว่าใครกันแน่ ได้ประโยชน์ต่อโครงการนี้
Advertisement