"บิ๊กกุ้ง" ขึ้นเวทีช่างกลปทุมวัน ปลุกพลังเยาวชน รักชาติ รักแผ่นดิน
"บิ๊กกุ้ง" ขึ้นเวทีช่างกลปทุมวัน ปลุกพลังเยาวชน รักชาติ รักแผ่นดิน พร้อมฝากบทเรียนชีวิตทหารความซื่อสัตย์คือเกียรติสูงสุด เผยภารกิจที่ทำอ่อนแอสุด
วันที่ 4 พ.ย. 68 ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลให้กับนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ประจำปีการศึกษา 2568 โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ขึ้นเวทีบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เยาวชนไทยร่วมใจรักชาติ รักแผ่นดิน” และปลุกจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรม และความโปร่งใส เพื่อความมั่นคงของชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พล.ท.บุญสิน ได้พูดถึงความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสิ่งที่ทุกคนจะได้รับเกียรติ ไปที่ไหนคนก็จะให้เกียรติ หากปฎิบัติหน้าที่ โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงก็จะได้รับผลดี สมัยที่ตนเองดำรงตำแหน่ง ดูแลในเรื่องยาเสพติดหลายพื้นที่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ที่มีตำแหน่งยื่นเรื่องเงิน หวังจะให้เงินใต้โต๊ะ ซึ่งตนเองมองว่านี่เป็นการทรยศแผ่นดิน เป็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อการปฎิบัติหน้าที่ของตัวเอง ถ้าหากว่ายาเสพติด พวกนี้ปล่อยผ่านไปได้ ก็จะไปทำลายเยาวชนได้อีกหลายคน และความซื่อสัตย์สุจริตก็จะเป็นการพิสูจน์ตัวเอง ตนเองก็มักจะเตือนลูกน้องตลอด ว่าถ้าหากเจอใครไม่ซื่อสัตย์สุจริต ให้มีการบันทึกข้อมูลไว้ทั้งหมด ไม่ควรกล่าวหาใครโดยที่ไม่มีหลักฐาน ที่สำคัญจะมีผลต่อความมั่นคงของประเทศชาติ และเกิดความเสียหายต่อพี่น้องคนไทย ที่อยู่ส่วนกลางหากยาเสพติดเข้ามาในใจกลางเมือง จึงอยากฝากไปยังผู้ที่ฟังอยู่ตอนนี้ หากทุกคนมีความซื่อสัตย์สุจริต ก็จะเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเอง
ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งสำคัญที่สุดช่วงเกิดการปะทะ ระหว่างสองชายแดน ตนเองยึดถือการปฎิบัติหน้าที่ โดยใช้เหตุและผลในการวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์ ได้มีความละเอียดรอบคอบ และต้องมีมีสติตลอดเวลา ไม่ตื่นตระหนก และไม่ใช่คนที่ขี้โมโห จะต้องตัดสินใจรวดเร็ว ทุกลูกระเบิด ทุกเครื่องบินที่มีการบินขึ้นทางอากาศ ตนเองต้องเป็นผู้รับรอง ว่าจะต้องนำไปลงที่ทหารด้วยกันเท่านั้น จะไม่นำไปทำร้ายเด็ก ชรา ประชาชนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ซึ่งนี่ความเป็นสุภาพบุรุษที่ทหารไทยถือมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีกำลังพลของเราที่บาดเจ็บและเสียชีวิต แล้วซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียใจทันทีที่รู้ข่าว แต่สิ่งที่ต้องทำก็คือการแสดงความเคารพและเชิดชูเกียรติ และต้องเดินหน้าต่อ เพราะสถานการณ์ยังคงคับคั่งต่อเนื่อง ทุกวันนี้ ทหารที่ได้รับอาการบาดเจ็บ และเสียชีวิตตนเองก็ต้องดูแลต่อเนื่อง น้องทหารหลายคน ที่ได้รับอาการบาดเจ็บ ตาบอด ขาขาด คนพวกนี้คือการสละชีพเพื่อชาติ แม้ว่าตนเองเข้ามามานานแล้วกับแม่คนใหม่ แต่ก็ยังแสดงความห่วงใยตลอด
เรื่องครอบครัว เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะคนเหล่านี้เป็นผู้ที่ให้กำลังใจ ในยามที่ตนเองต้องทำงานต่างพื้นที่ไกลๆนานๆ สิ่งเดียวที่เป็นกำลังใจให้มีความสุขในการทำงานก็คือคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นเยาวชนที่กำลังจะสร้างครอบครัวในอนาคต ก็อยากให้ให้เกียรติ และ แบ่งเวลาในการใช้ชีวิต ให้ความสำคัญกับครอบครัว
บางช่วงบางตอนก็เปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษา ถามคำถามกับบิ๊กกุ้งด้วย เกี่ยวกับแนวทางการใช้ชีวิตที่มีคุณธรรมจริยธรรม
โดยในช่วงตอบคำถาม มีนักศึกษารายหนึ่งถามคำถามว่า “ภารกิจใดในชีวิตทหารที่ทำให้ท่านแม่ทัพ รู้สึกอ่อนแอที่สุด และท่านจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร” พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เป็นคำถามที่ดีมาก ไม่เคยได้ยินคนถามมาก่อน ก่อนตอบว่า ภารกิจที่อ่อนแอที่สุดที่แม่ทัพไปแล้วมีความรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอที่สุดคือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ด้อยโอกาส โดยยกตัวอย่างเคสที่ลำบากที่สุดเป็น “เด็กกำพร้าอยู่กับยายตาบอด” น้องผู้หญิงที่เป็นเด็กไม่รู้ว่าพ่อแม่ไปไหน ใช้ชีวิตอยู่กับยาย ที่น่าสงสารคือ พ่อป่วยติดเตียงอยู่กับยายแก่ๆ ซึ่งเด็กหญิงรายนี้สอบเข้าเรียนหนังสือ แต่ไม่มีเงินไปรายงานตัว และไม่มีไอแพดใช้เรียนหนังสือ ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ การไฟฟ้าตัดไฟ เรื่องนี่ทำให้ตนอ่อนแอ (ก่อนจะนิ่งไปพักหนึ่ง) ถามกลับว่าน้องๆ นักเรียนคิดอย่างไร แต่เรื่องราวของน้องทำให้แม่ทัพ รู้สึกสงสาร ก่อนบอกว่าน้องที่นั่งฟังแม่ทัพเล่าเรื่องมีเงินแต่งตัว มีเงินซื้อน้ำอัดลมกิน มีบ้านอยู่ กลับกันน้องคนนั้นบ้านเป็นรูเท่าฝ่ามือ ห้องส้วมไม่มีต้องไปเข้าในป่า
ทางพล.ท.บุญสิน บอกว่า นี่คือเพื่อนร่วมชีวิตคนไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน เขาไม่มีโอกาสเลย ส่วนตัวเห็นเรื่องราวครอบครัวนี้รู้สึกอ่อนแอ พร้อมฝากบอกคนไทยทั้งประเทศอย่าทิ้งคนด้อยโอกาส
ก่อนจะเล่าว่ากำลังจะจดมูลนิธิ ไม่รู้จะผ่านหรือไม่ เอาเงินไปช่วยคนเขา คืนกำไรให้กับแผ่นดินนี้ ขอจากคุณลุงคุณป้า 5-10 บาท ไปสร้างบ้านและให้น้องที่ด้อยโอกาสได้ไปเรียนหนังสือ
มีคำถามจากนักศึกษาว่า ในอนาคต มีโอกาสที่จะยกเลิกเกณฑ์ทหารหรือไม่ พล.ท.บุญสิน ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นนั้นมาแล้วมีคนถามคำถามนี้หลายปีมาแล้ว โดยบิ๊กกุ้งระบุว่า ถ้าดูปัจจุบันมีโอกาสที่จะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และแนวทางของกองทัพและรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันมีคนสมัครเยอะมาก หลายคนอยากเป็นทหารเพื่อปกป้องแผ่นดินเหมือนกับพี่ๆ ทหารและลุงกุ้ง เพราะทำแล้วได้รับเกียรติทางสังคม ไม่มีใคร ไม่มีอาชีพไหนที่จะยอมตายด้วยการถือปืนถืออาวุธ เหมือนทหาร ตำรวจ
ถ้ามีคนสมัครเยอะก็ไม่จำเป็นต้องเกรฑ์ทหารอีก แต่หากมีไม่พอ ตามกฎหมายก็ทุกคนก็ต้องเป็นทหาร แต่ที่เป็นไม่ได้ทุกคน เพราะกองทัพมีงบในการดูแลจำกัด ซึ่งเมื่อรับราชการแล้ว จะได้รับสวัสดิการดูแลอย่างดี มีเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ให้โอกาสในการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงาน บางคนเริ่มจากเป็นพลทหาร พอไปเรียนโรงเรียนก็ได้ยศนายพัน
“จริงๆ แม่ทัพกุ้งอยากให้น้องๆ อยากให้สมัครทหารมากกว่า เพราะว่าเขาไปด้วยใจ คนเขาสมัครใจไปถึงไหนถึงกัน จิตใจพร้อม ร่างกายจะได้เอง ตนต้องการน้องๆ ที่สมัครใจ เหมือนกับลุงแม่ทัพไปรบ ตนจะมีคำถามว่าใครจะไปกับกูบ้าง ทุกคนยกมือหมดแล้วโดดขึ้นรถกันไป ซึ่งนี่คือสิ่งที่ประเทศชาติต้องการ”
Advertisement
