
วันที่ 3 พ.ย. พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ปัจจุบันการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่บ้านหนองจาน แปลง A เก็บไปได้แล้วเกือบ 30% และคาดว่าอีก 3 วันจะเสร็จสิ้น ซึ่งหากเก็บกู้เสร็จก็จะคืนพื้นที่ปลอดภัยทำกินให้เจ้าของที่ดิน โดยการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่เร่ง 17 พ.ย. 68 ซึ่งบ้านหนองหญ้าแก้วมีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันสามารถเก็บกู้ได้ถึง 13,500 ตารางเมตร และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก็จะใกล้เคียงกับกำหนดการปักหมุดชั่วคราวหลักเขตที่ 42-47 ในวันที่ 17 พ.ย. พร้อมยืนยันว่าไทยไม่มีการวางทุ่นระเบิดอยู่ ที่เก็บกู้อยู่ในขณะนี้คือฝั่งกัมพูชามาวางฝั่งไทย
อย่างไรก็ตามหากกัมพูชาไม่มาเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในวันที่ 17 พ.ย. ก็จะมีชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้ง 2 แนวเส้นแดงและน้ำเงินอยู่แล้ว หากตรวจพบก็เก็บกู้ต่อ ตรงนี้ก็จะพิสูจน์ว่าฝั่งเส้นน้ำเงินของกัมพูชามีการเก็บแล้วหรือยัง ซึ่งการเก็บกู้ทุ่นระเบิดก็จะมีชาวบ้านและทหารกัมพูชามาร่วมสังเกตการณ์ตลอด แต่ก็จะอยู่ในพื้นที่ของกัมพูชา ไม่ได้เกินเส้นแดงมา ซึ่งอยากดูก็ดูไป เราก็ดำเนินการตามปกติ พร้อมยืนยันว่าในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 ที่ผ่านมายังไม่มีฝั่งกัมพูชาขัดขวางการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเหมือนกรณีของช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ส่วนการถอนอาวุธหนักก็เป็นไปตามข้อตกลง แต่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ที่ผ่านมายังไม่ปรากฏว่าฝั่งกัมพูชาเอาอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ แต่กำลังพลของฝั่งกัมพูชาก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เติมกำลังพลแต่อย่างใด
ส่วนการเกี่ยวข้าว ทางทหารก็พร้อมให้เข้ามาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ตั้งแต่แนวถนนศรีเพ็ญเป็นต้นไป สามารถไปดำเนินการได้เลย แต่หากไม่มั่นใจให้มาบอกเจ้าหน้าที่ทหารให้ไปคอยระวังป้องกันหรือไปร่วมเก็บเกี่ยวได้ อย่างไรก็ตามจะมีทหารที่คอยระวังป้องกันด้วย
ครั้งนี้กังวลหรือไม่ ว่าทางกัมพูชาจะละเมิดข้อตกลง พ.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า ไม่สามารถการันตีได้ ต้องรอดูความจริงใจของกัมพูชาจะดำเนินการอย่างไร เราก็ดำเนินการของเรา
ในช่วงนี้มีภาพข่าวปลอมปรากฏในสื่อในลักษณะปลุกปั่น พ.อ.ชัยณรงค์ เน้นย้ำว่า อยากให้ประชาชนวิเคราะห์ดีๆ โดยเฉพาะเพจต่างๆ ที่ไม่ได้ออกมาจากทางการ จะทำให้เกิดความวุ่นวาย
Advertisement