
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่มีรายงานข่าวว่าทางกัมพูชาขัดขวาง ไม่ให้คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ AOT เข้าสังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า อย่าเพิ่งไปใช้คำว่าขัดขวาง เขาประชุมกันตลอด ซึ่งตนได้พูดคุยกับ พลเอกอุกฤษณ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด. หรือ ผบ.ทสส. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่ายังดำเนินการอยู่ ทั้งเรื่องการถอนกำลังและการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็ยังมีการพูดคุยกันต่อไป พร้อมยอมรับว่าอาจจะไม่ราบรื่น แต่เป้าหมายต้องชัดเจน ไม่ใช่ว่าขัดขวางแล้วฝ่ายไทยจะยอม เราก็ไม่ยอม ถ้าจะให้เรานำไปสู่สันติภาพและสันติสุข และยังคงย้ำในเงื่อนไข 4 ข้ออยู่ คือการถอนอาวุธ เก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามสแกมเมอร์อละการแก้ไขปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งทั้ง 4 ข้อจะต้องได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี ฝ่ายทหารและกองทัพของเราจึงดำเนินการในเรื่องเชลยศึก การปักปันเขตแดนและการพูดคุยเรื่องอื่นๆต่อไป พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของกัมพูชา
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางกัมพูชาได้ขนอาวุธหนักกลับมาในพื้นที่ชายแดนนั้นนายอนุทินระบุว่า ขณะนี้ยืนยันว่าต่างฝ่ายต่างถอยออกไป ก่อนย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า ไปเอาข่าวนี้มาจากไหน ไม่มี เพราะข้อตกลงที่ทำไว้คือต่างคนต่างถอนอาวุธ ถ้าเข้ามาคือการฉีกข้อตกลง และจะถือว่าไม่มีข้อตกลง และสามารถทำตามที่เราเห็นว่าเหมาะสม
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีแนวคิดที่จะลงพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ถ้ามีความจำเป็น หรือถึงจุดที่เราจะต้องไป เพื่อดูว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงหรือเปล่า ซึ่งตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ส่วนกรณีที่ประชาชนมีความกังวลเรื่องการถอนอาวุธของไทย ปรับที่ตั้งยังจังหวัดลพบุรีซึ่งอาจกลับมาไม่ทันหากทางกัมพูชา ไม่ทำตามข้อตกลง นายอนุทิน กล่าวว่า ถามผบ.ทสส.และพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ. ทบ. เขาต้องรู้ว่าเขาต้องปกป้องประเทศอย่างไร ขอให้เชื่อมั่นในกองทัพ
และเมื่อถามว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร นายกรัฐมนตรียังคงย้ำว่า ขอให้มั่นใจในกองทัพ
Advertisement