
"สส.กฤต" โต้กลับ "อัจฉริยะ" ยัน ไม่เคยเกี่ยวข้องสแกมเมอร์ ไม่ได้ร้อนตัว แต่อยากชี้แจงมุมของตัวเองรับเคยถูกออกหมายจับจริงศาลตัดสินแล้วไม่มีความผิด
จากกรณี "อัจฉริยะ" บุกยุติธรรมยื่นหลักฐานเด็ด! แฉ ส.ส.ใต้สังกัดพรรครัฐบาล เอี่ยวเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่อแววฟอกเงิน-ธุรกิจมืด เส้นทางการเงินกว่า 170 ล้านบาท จี้ สอบตํารวจไซเบอร์-ศปอส.ตร. ปมคดีไร้ความคืบหน้า
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้คุยกับ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว หรือ สส.กฤต เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตนเองไม่ได้ร้อนตัว แต่ต้องออกมาพูด เพราะเริ่มจากกรณีที่บิ๊กโจ๊ก หรือ ท่านสุรเชษฐ หักพาล ได้มีการออกมาพูดว่ามี สส.ช ที่เคยเล่นการเมืองท้องถิ่นมาก่อนนั้นเอี่ยวสแกมเมอร์ ตนเองอยากจะบอกว่า ตนไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่บิ๊กโจ๊กพูดคือใคร แต่ตนอยากย้ำว่า ตนไม่เคยเล่นการเมืองท้องถิ่นมาก่อน ความจริงตนเองไม่อยากพาดพิงใคร แต่ตนเองไม่อยากให้คนในพื้นที่ตนเองผิดหวัง ที่ได้ผู้นำไม่มีคุณภาพ
ส่วนเหตุการณ์ในวันนี้ที่พ่อหนุ่มหน้ามนต์ (คุณอัจฉริยะ) ได้กล่าวถึงนั้น ตนได้เห็นหลักฐานที่มีการนำมาเปิดแล้ว มีคนส่งให้ตนเองดู เป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องบอกว่าหลักฐานเหล่านั้น เป็นเรื่องเก่าทั้งหมด ที่มีการกล่าวหาว่าตนเองเชื่อมโยงกับเว็บพนัน และมีการร้องตนเองหลายหน่วยงาน และร้องครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งได้มีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ครั้งก่อนกล่าวหาว่ายุ่งเกี่ยวกับเว็บพนัน วันนี้มากล่าวหาว่ายุ่งเกี่ยวกับสแกมเมอร์อีกแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าทำไม
สส.กฤต เล่าให้ฟังอีกว่า หลักฐานที่มีการร้องตนเองนั้น เป็นหลักฐานการโอนเงิน ยอมรับว่ามีการรับและโอนเงินไปที่บัญชีเพื่อนที่ทำผิดกฎหมายจริง ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อน ว่าเพื่อนทำอะไร ตนจึงมีการโอนเงินกันตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ซึ่งตนไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ยืนยันว่าถูกตรวจสอบเรียบร้อย เมื่อก่อนตนเองไม่ได้ระวังในเรื่องของการโอนเงิน
ส่วนที่บอกว่า ส.ส.ช. เชื่อมโยงกับขบวนการยาเสพติด ได้เงินกว่า 100 ล้านบาท รวมเงินนอกระบบอีก 1,000 ล้านกว่าบาทนั้น ตนเองเห็นหมดแล้ว เปิดชื่อชนนพัฒน์เลย ตนดูคลิปหมดแล้ว ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่ามีการส่งหลักฐานมาให้ตนเอง ที่มีการโอนหลังสุดคือ เมื่อปี 2562-2563 สมัยนั้นประชาชนไม่มีความรู้เรื่องการโอนเงิน แต่ตนเองมั่นใจว่าไม่เคยโอนเงินให้กับพ่อค้ายาเสพติดแน่นอน แต่ก่อนเป็นนักการเมืองมีการโอนเงินให้เพื่อนเป็นเรื่องปกติ จึงอยากไปยังประชาชนคนไทยว่า เส้นทางการเงินจะอยู่ติดตัวเราไปจนวันตาย เพราะฉะนั้นการโอนเงินขอให้ระมัดระวัง และอยากให้หน่วยงานที่เป็นผู้รักษากฎหมาย ในการที่จะเชื่อมโยงถึงผู้ต้องหา อยากให้มีพยานหลักฐาน ก่อนจะกล่าวหาว่ามีความผิด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีเคสผู้บริสุทธิ์เคยถูกดำเนินคดีแล้วเช่นกัน
ส่วนประเด็นที่บอกว่าตนเองเคยถูกตำรวจชุด PCT4 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ออกหมายจับ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเว็ปพนันนั้น ตนเองยอมรับว่าเคยถูกออกหมายจับจริง และตนก็เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และศาลก็ได้ตัดสินแล้วว่าตนเองไม่มีความผิด ยืนยันว่าตนเองไม่เคยวิ่งเต้นล้มคดี แต่สู้ด้วยกระบวนการยุติธรรม ตนเองต่อสู้ทางกฎหมายอย่างถูกต้อง
ตนเองอยากยืนยันกับสังคมและพี่น้องประชาชนทุกท่าน
ส่วนประเด็นที่มีคนก่อเหตุทำร้ายคนอื่น และเป็น พ่อของลูกน้อง สส.ช นั้น ตนเองของไม่พูดถึง ไม่อยากฟาดผิงคนอื่น อะไรถ้าผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เชื่อว่าไม่มีอะไรใหญ่กว่ากฎหมาย
ส่วนตัวมองว่าสแกมเมอร์ เป็นสิ่งที่ประเทศชาติรับไม่ได้ ทำให้ชาวบ้านหลายคนหมดเนื้อหมดตัว บางคนฆ่าตัวตาย ได้แต่หวังว่าภาครัฐจะช่วยปราบปรามให้หมดจากคนไทย ตนมองว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยต้องแก้ไข
ส่วนร้อยเอกธรรมนัสนั้น วันนี้ตนเองเข้าสภาและมีการไปพบร้อยเอกธรรมมนัสที่กระทรวง ซึ่งมีการถามตนเองแบบพี่น้องว่า ทำสแกมเมอร์หรือไม่ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวและไม่เคยรู้จักใครที่ทำสแกมเมอร์ ทางร้อยเอกธรรมนัส ก็ตอบกลับมาว่า งั้นไม่ต้องกลัวและเดินหน้าพิสูจน์ความจริง ซึ่งท่านไม่ได้เป็นกังวลอะไร พรรคกล้าธรรม ด้วยเรื่องของคนทำงานอยู่แล้ว จุดเด่นของพรรคคือเรื่องของคนทำงาน ซึ่งท่านธรรมมนัสจะสอนอยู่เสมอว่า ต้องลงไปแก้ไขปัญหาของชาวบ้านจริงและทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้จริง อาจจะเป็นกลุ่มก้อนนักการเมืองที่เก่งในเรื่องของวาทะศิลป์ แต่เป็นกลุ่มก้อนที่ปฏิบัติจริง เชื่อว่าไม่ได้กระทบอะไรกับพรรค ส่วนตัวแคร์ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่
ที่มีคนบอกว่าตนเองเป็นวัยรุ่นสร้างตัว ร่ำรวยมาจากไหนนั้น ตนเองไม่ได้กังวลอะไร เพราะเมื่อก่อนที่บ้านเติบโตด้วยธุรกิจเดิมอยู่แล้ว เป็นคนทำงาน / ส่วนคุณอัจฉริยะนั้น ตนเองไม่เปิดหน้าสู้อะไร เพราะคุณอัจฉริยะ ก็มีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว ตนมีหน้าที่อย่างเดียวคือชี้แจงสังคม และพิสูจน์ความจริง ยืนยันว่าทุกเรื่องถูกตรวจสอบไปหมดแล้ว ตนเองน่าจะเป็น ส.ส.คนเดียวที่ถูกตรวจสอบเยอะกว่าเพื่อน
หากถามว่าน้อยใจหรือไม่นั้น ตนเองต้องบอกก่อนว่า ตกใจมากกว่า ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองเป็นนักการเมืองที่ชอบทำงานในพื้นที่ และแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนมากกว่า ตนเองไม่ชอบออกสื่อแบบนี้ แต่พอเจอเรื่องนี้ก็คิดว่าคงต้องพูด
Advertisement