
โฆษกกองทัพไทย เผยทหารถอนอาวุธหนัก แนวชายแดน ยึดตามข้อตกลง ประชาชนไม่ต้องกังวล ทหารยังตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดน ไม่ให้ใครมารุกล้ำอธิปไตย
พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผย ถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังลงนามข้อตกลงร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีข้อตกลงให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอนอาวุธหนักอยู่ริมชายแดน เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามพันธกรณีใน “ข้อตกลงร่วมไทย-กัมพูชา”
โดยทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่น ลดความตึงเครียด และวางรากฐานแห่งความร่วมมือในระยะยาว
ทางฝ่ายไทย ได้นำรถถัง 2 คัน กลับสู่ที่ตั้งหน่วยที่จ.สระบุรี ตามข้อตกลงสันติภาพ โดยคณะ AOTจากประเทศมาเลเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ ได้ร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบขั้นตอน
พล.ต.วิทัย เปิดเผยว่า การย้ายรถถังกลับที่ตั้ง ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ลดความตึงเครียด โดยมุ่งไปที่การแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี โดยช่วงแรกจะมีการเคลื่อนย้าย จรวดหลายลำกล้อง ของฝั่งไทย และระเบิด บีเอ็ม 21 ของฝั่งกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน โดยเริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป จากนั้นจะเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ ต่อด้วยรถถัง
เมื่อถามว่าการถอนกำลังบริเวณตามแนวชายแดนจะสร้างความกังวลให้กับประชาชนในประเทศ ทางพลตรีวิทัย ยืนยันว่า การถอนกำลังเป็นการถอนกำลัง เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลง ยืนยันประชาชนคนไทย ไม่ต้องเป็นห่วง ทหารยังคงตรึงกำลังรักษาพื้นที่และปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยเหมือนเดิม
ส่วนกรณีพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย ให้ถูกฝั่งกัมพูชายึดอยู่ตอนนี้ ทางโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยืนยันว่าบริเวณตัวปราสาทยังอยู่ในพื้นที่ดินแดนอธิปไตยของประเทศไทย หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนในการพูดคุย เจรจาตกลงเรื่องการถอนกำลังออกจากพื้นที่
ส่วนการใช้เทคโนโลยีไรด้า" (LiDAR) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์ในการวัดระยะห่างเพื่อสร้างแผนที่และแบบจำลอง 3 มิติ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยืนยัน เอกเทคโนโลยีไรด้า เป็นหลักฐานที่ยืนยันการแบ่งเขตแดนได้ชัดเจน มีความละเอียด และเป็นที่ยอมรับในหลักสากล ใช้เวลาทำแผนทีืเพียงไม่กี่เดือน
Advertisement