
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการให้ สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ในหลักการ หากไทยมีการรุกล้ำพื้นที่กัมพูชาจนทำให้เกิดกระแสดรามา ว่า เรื่องนี้ตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ซึ่งต่างคนก็ต่างทำตามข้อตกลงที่ระบุไว้ ซึ่งที่ตนพูดคือพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจน
เมื่อถามว่าพื้นที่อ้างสิทธิ์ดังกล่าวคือพื้นที่เป็นพื้นที่ ที่มีปัญหาอยู่ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นพื้นที่ที่มีปัญหากันอยู่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องเจรจากันต่อไป เพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไร ส่วนเรื่องนี้หากทำให้เกิดความสับสนตัวต้องขอโทษ ตนต้องการบอกว่าทุกอย่างทั้งสองฝ่าย ต้องทำตามข้อตกลงที่มีกันอยู่
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงการลงนามในข้อตกลง วันนี้ทางฝ่ายกัมพูชาขอพบและแจ้งให้ทราบว่าข้อตกลงต่างๆ จะดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งตนได้กล่าวกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ประเทศไทยเรามีความพร้อม ในส่วนของเรา เมื่อทางกัมพูชาพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ซึ่งทางกัมพูชายืนยันจะเร่งปฏิบัติ พร้อมทั้งกล่าวว่าในส่วนที่ต้องดำเนินการ เช่น กรณีการส่งตัวเชลยศึกคืนทั้ง 18 คน ซึ่งหากฝ่ายทหารมีความแน่ใจว่าจะทำเรื่องนี้ให้จบ ก็จะมีการส่งตัวเชลยศึกคืน และมีการเตรียมการตรวจสุขภาพ เพื่อให้มั่นใจว่ากลับไปแล้ว ไม่มีการตั้งข้อสงสัย ว่าถูกปฏิบัติไม่ดี หรือถูกทารุณหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเปิดด่านกับ นายฮุน มาเนต แต่อย่างใด
ส่วนจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทางกัมพูชาจะทำตามข้อตกลงถอนอาวุธหนักออกจากชายแดน เพราะประเทศไทยยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ นายกรัฐมนตรีระบุว่าขณะนี้เรามีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ AOT ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยทูตทหารอาเซียน
ส่วนคาดหวังว่าข้อตกลงทั้ง 4 ข้อจะจบในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า จะใช้เวลา 1-2 เดือนสำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ส่วนการปราบปรามสแกมเมอร์ต้องร่วมกันทำงาน เพราะที่ผ่านมาหยุดไป แต่ทางตำรวจและฝ่ายความมั่นคงมีการทำงานร่วมกันมาแต่เมื่อมีปัญหาก็หยุดกันไป
ส่วนจะสามารถสร้างรั้วได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่อยว่ากันต่อไปเพราะเป็นเรื่องของกองทัพที่ต้องเจรจากันต่อ
Advertisement