Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
บวรศักดิ์ แจงขั้นตอนแก้รธน.2พรรคใหญ่ไม่แตะหมวด1-2ประชามติมี2คำถามพ่วง

บวรศักดิ์ แจงขั้นตอนแก้รธน.2พรรคใหญ่ไม่แตะหมวด1-2ประชามติมี2คำถามพ่วง

29 ก.ย. 68
14:55 น.
แชร์

บวรศักดิ์ แจง ขั้นตอนแก้รธน. ยัน2พรรคใหญ่ ไม่แตะหมวด1-2 เผยขั้นตอนประชามติ มี2คำถามพ่วง ส่วนยกเลิกMOUไทย-กัมพูชา หรือไม่รัฐบาลเฉพาะกิจตัดสินใจไม่ได้

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่าตนจะตอบคำถาม ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ที่ตั้งคำถามและฝากข้อคิด ให้กับคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ซึ่งต้องนำไปใส่ใจ โดยคำถามในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สรุปสั้นๆที่ถามว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 จะทำอย่างไร ขอเรียนว่านโยบายของรัฐบาล ได้เขียนไว้ชัดว่ารัฐบาลนี้ จะสนับสนุนการทำประชามติเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และฟังเสียงของประชาชน สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเพื่อธำรงไว้ในระบบประชาธิปไตย อาจมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการจัดทำรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้ใช้คำว่าจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ รัฐบาลนี้ไม่ต้องการ แต่ต้องการสนับสนุนให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามนโยบายที่แถลงไว้ ว่า ให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และธำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายบวรศักดิ์ระบุว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นขั้นตอนแรก ส่วนขั้นตอนที่ 2 เมื่อประชาชนลงประชามติเห็นชอบ กับการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งจะเป็นคำถามที่ 1 โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเพิ่มหมวด 15/1 เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีเฉพาะหมวด 15 ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่สภาต้องพิจารณาซึ่งในชั้นที่ 1 ที่สภาต้องพิจารณา จะเป็นวิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่าจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างไร โดยไม่ให้ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าไม่สามารถเลือกส.ส.ร.โดยตรงจากประชาชนได้ ถ้าผ่านสภาแล้ว จะมีการทำขั้นตอนที่ 2 คือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร.หรือใครก็แล้วแต่ ตามที่เขียนไว้ในหมวด 15/1 ที่ผ่านประชามติ ถึงจะมาดูว่าจะแตะหมวด 1 หมวด 2 หรือไม่ แต่ตนเชื่อว่ามี 2 พรรคการเมืองใหญ่ ได้พูดกับสื่อมวลชนไว้แล้วว่า จะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปแต่เรื่องดังกล่าวก็จะมีปัญหาทันที ว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันหรือไม่ ในมาตรา 255 เรื่องนี้จึงชัดเจนอยู่ในตัว ว่าประชามติที่รัฐบาลจะทำ และจะทำวันเดียวกับวันเลือกตั้ง จะทำ 2 เรื่องเท่านั้น และจะตามคำวินิจฉัยของสารรัฐธรรมนูญ คือ 1. ประชาชนจะเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และ 2. ประชาชนจะเห็นชอบ กับวิธีการและเนื้อหาสาระ ที่รัฐสภา จัดทำตามร่างรัฐธรรมนูญแล้วตามมาตรา 256 อนุมาตรา 1 ถึงมาตรา 6 โดยยืนยันว่าจะไม่มีการลงไปถึงเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นสภาต้องรอ ส.ส.ร. ที่มาจากหมวด 15/1 จะเขียนอะไร

นายบวรศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา 256 (8) พูดไว้ชัดว่าจะไปแก้คุณสมบัติต้องห้ามต้องไปทำประชามติก่อน เรื่องนี้รัฐบาลไม่แตะ ส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ทำขึ้น โดย ส.ส.ร. จะไปแต่เรื่องคุณสมบัติหรือไม่ ต้องตามไปดูในขั้นตอนที่ 2

ส่วนเรื่องที่สส. ได้สอบถามถึงการทำประชามติ ให้ยกเลิก MOU นายบวรศักดิ์ระบุว่า การจัดทำประชามติในแต่ละครั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งบอกว่าใช้เงิน 6,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดิน รัฐบาลจะทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้ง ซึ่งประชามติจะมี 2 เรื่องที่จัดทำ 1 คือเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมี 2 คำถาม และจะมีบัตรขึ้นมาอีกใบหนึ่ง ซึ่งถามว่า ท่านเห็นชอบให้ยกเลิก MOU กับกัมพูชาหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลต้องประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน ว่าในการเลือกตั้งทั่วไป หลังจากยุบสภา ประชาชนจะมีบัตรทั้งสิ้น 4 ใบ ใบที่ 1 คือเลือกสส.เขต ใบที่ 2 เลือกสส. บัญชีรายชื่อ ใบที่ 3 เป็นการลงประชามติ เรื่องรัฐธรรมนูญ และใบที่ 4 ประชาชนต้องวินิจฉัยว่า จะให้ยกเลิก MOU กับกัมพูชาหรือไม่

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่ารัฐบาลสามารถตัดสินใจเรื่อง MOU ได้แต่ทำไมจะต้องไปสอบถามประชาชน ซึ่งที่ต้องไปถามประชาชนเพราะรัฐบาลนี้เห็นว่า " เรื่องสำคัญเช่นนี้กับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลเฉพาะกิจไม่ควรตัดสินใจ ด้วยตัวเองแต่ควรขอฉันทานุมัติ จากประชาชนตามมาตรา 166 ของรัฐธรรมนูญ ถ้าประชาชนบอกเลิก ก็ต้องเลิก แต่ถ้าประชาชนบอกว่าให้เก็บไว้ รัฐบาลมีก็ต้องเก็บไว้ เพราะประชาชนคือเจ้าของอำนาจอธิปไตย เขาต้องตัดสินใจได้ด้วยตัวเขาเอง"

นายบวรศักดิ์ยังกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่สส.ให้ข้อคิด เรื่องการเล่นพรรคเล่นพวกโดยเฉพาะการแต่งตั้ง ความจริงรัฐบาลรักษาการชุดที่แล้ว ลงมติตั้งอธิบดีไปหลายกรม และตำแหน่งบริหารหลายตำแหน่ง ซึ่งเมื่อมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ก็ได้ส่งเรื่องคืนมา วันนี้พอแถลงนโยบายเสร็จ นายกรัฐมนตรีได้กำชับ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยืนยันเรื่องการแต่งตั้ง อธิบดีและผู้บริหารที่ถูกแต่งตั้งโดยรัฐบาลรักษาการชุดที่แล้วทุกตำแหน่ง ประมาณ 10 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้ท่านได้เห็นว่าการเริ่มต้นรัฐบาลนี้ เรื่องใดผ่าน ครม.ไปแล้ว ก็เดินต่อ ไม่มีเจตนา เอาพรรคพวกที่จะดึงกลับมาแล้วเอาพรรคพวก จากพรรคการเมืองของตัวเองเข้าไปเสียบเข้าไปใหม่ หรือยกเลิกมติ ครม.เดิม แล้วใช้มติครม.ใหม่ ก็คงทำให้ท่านได้อุ่นใจระดับหนึ่ง

ส่วนที่สส.ฝากให้ไม่อยากให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีได้ชวนให้ตนเข้าร่วมครม. ตนได้กราบเรียนท่านว่า เรื่องใดที่เป็นอยู่ในเวลานี้ เช่นเรื่องฮั้วสว. เรื่องเขากระโดง และเรื่ององค์กรอิสระในกระบวนการยุติธรรม ขอให้ปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่ควรจะเป็นซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับปาก รัฐบาลแถลงชัดว่าจะไม่ให้ใช้กฎหมาย หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง เรื่องนี้สำคัญเพราะในอดีต เคยมีคนนำ ป.ป.ง. ที่อยู่ฝ่ายไม่เอื้อต่อรัฐบาล จะเป็นคนหรือเป็นโทษต่อประโยชน์ทางการเมือง ต้องมีหน่วยงานเข้ามากำกับ การใช้ดุลยพินิจให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจจะต้องแก้กฎหมาย แล้วขอความร่วมมือกับสส.และสว. โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแทรกแซงแต่เป็นการป้องกัน ไม่ให้หน่วยงานนั้นเป็นเครื่องมือทางการเมือง

Advertisement

แชร์
บวรศักดิ์ แจงขั้นตอนแก้รธน.2พรรคใหญ่ไม่แตะหมวด1-2ประชามติมี2คำถามพ่วง