Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ณัฐพงษ์" ชี้วันนี้เป็นหมุดหมายแรกของรบ. 4 เดือน ลั่นจะตรวจสอบเต็มที่

"ณัฐพงษ์" ชี้วันนี้เป็นหมุดหมายแรกของรบ. 4 เดือน ลั่นจะตรวจสอบเต็มที่

29 ก.ย. 68
12:10 น.
แชร์

"ณัฐพงษ์" ชี้วันนี้เป็นหมุดหมายแรกของรัฐบาล 4 เดือน ลั่นผู้นำฝ่ายค้านจะตรวจสอบเต็มที่ ย้ำ พรรค ปชน. ไม่ได้โหวต " อนุทิน"  เพื่อมาใช้อำนาจมิชอบ 

วันที่ 29 ก.ย. 68 ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ในวาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นาย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาลเป็นคนแรกว่า วันนี้เป็นหมุดหมายแรกที่รัฐบาลเข้าทำหน้าที่ภายใต้กรอบระยะเวลา 4 เดือนอย่างเป็นทางการ และเป็นหมุดหมายแรกของตนและพรรคประชาชนในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านนับถอยหลังสู่การยุบสภา แล้วมุ่งหน้าสู่การทำประชามติสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 

และเพื่อเห็นถึงความสำคัญการจัดทำรัฐธรรมนูญ ขอให้ทุกคนระลึกถึงวันแรกที่เข้าสู่คูหาเลือกตั้งแต่ละคนมีประสบการณ์ต่อการเมือง เศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างไร 

ขอให้ย้อนกลับไปดูรุ่นแรกในยุค 2500 กว่าๆในซึ่งอยู่ในยุคโชติช่วงชัชวาลของเศรษฐกิจไทยจีดีพีเติบโตปีละ 9.7%  เพราะประเทศไทยได้รับอานิสงส์จากการเมืองโลก  ที่มีการจัดทำข้อตกลงพลาซา จนทำให้มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก  จนเราได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือตัวที่ห้าของเอเชีย  ใครที่เกิดมาในยุคนี้จะผ่านการรัฐประหารมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง 

แต่ผ่านมาถึงยุคตน การปฏิวัติเกิดขึ้นในครั้งแรก ในชีวิตของตนจำความไม่ได้ แต่ที่ตนจำความได้ คือการปฏิวัติเมื่อ 19 ปี นับตั้งแต่การปฏิวัติปี 2549 ซึ่งทำให้ตนผ่านการปฏิวัติรัฐประหารอีกสองครั้ง นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งถูกปลดออกจากตำแหน่งถึง 5 คน พรรคการเมือง ที่สำคัญถูกยุบไปถึง 7 พรรค และการเลือกตั้งถูกล้มไป2 ครั้ง 

ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาเราต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 3 คนคำ  ถามก็คือไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นพ่อรุ่นแม่หรือคนรุ่นตนหรือคนรุ่นไหนๆกว่าครึ่งทีผ่านมาในยุคสงครามเย็น  มีคนไทยรุ่นไหนยุคใดสมัยใดที่เดินเข้าคูหาเลือกตั้ง นับตั้งแต่ที่เกิดจนถึงมีการเลือกตั้ง ประเทศไทยไม่เคยมีการปฏิวัติรัฐประหารเลย 

และถามว่ายังคนไทยกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในในยุคนี้  ไม่มีใครไม่เคยเจอปฏิวัติรัฐประหาร แปลว่าไม่เคยมีคนไทยสักรุ่นที่เกิดมาในประเทศนี้อยู่ในการเมืองประชาธิปไตยเต็มใบที่มีเสถียรภาพ 

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ประเทศไทยที่ผ่านมาไม่เคยมีสักยุคที่ดอกผลของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเติบโตแบบก้าวกระโดดได้เกิดจากแรงถีบและแรงส่งของรัฐบาลและการเมืองภายในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย  ไม่ได้เกิดจากแรงฉุดหรือแรงลากจากอานิสงส์ที่เราได้รับจากการเมืองโลก  และลมที่กำลังเปลี่ยนทิศของการเมืองโลกวันนี้  ไม่ได้กำลังเข้าข้างประเทศไทยอีกต่อไป 

และด้วยการเมืองที่เป็นอยู่ทำให้เราต้องมาแถลงนโยบายถึงสามครั้งในรอบสองปีเนื่องจากกลไกของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระถูกนำมาใช้ทำลายล้างกันทางการเมืองมากกว่าการจับคดโกงลงโทษคนผิดปัญหาทุจริตในประเทศไม่เคยเบาบางลงมีแต่หนักขึ้นทุกวัน  การเมืองแบบนี้จะทำให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างไร  ตนเชื่อว่าวันนี้ทุกคนมีคำตอบในใจแบบเดียวกันกับตน 

และตราบใดที่เรายังอยู่ในระบบการเมืองแบบนี้มีใครที่จะต้องเจ็บปวดบ้าง เกษตรกรวันนี้ราคาผลผลิตยาง ตกต่ำปุ๋ยราคาแพง หนี้ท่วมหัว ปัญหาฝุ่นPM 2.5 กฎหมายอากาศสะอาดก็ยังล่าช้าผ่านสภาไปไม่ได้ ปัญหาน้ำท่วมไฟป่าก็ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดเข้ามาบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ  64 ปีมาแล้วที่ประชาชนยังอยู่กับคำขวัญที่ว่าน้ำไหลไฟสว่างทางดีมีงานทำ เป็นคำขวัญที่อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรก หากไปดูประชาชนในต่างจังหวัดยังไม่เป็นไปตามคำขวัญนั้น  ขณะที่ลูกหลานบางคนยังเขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก 

ส่วนจีดีพีของโลกและจีดีพีของไทยในช่วง 19  ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยยังเดินช้ากว่าโลกและประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม และตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาโลกเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี โลกฟื้นตัวกลับมาแต่ไทยไม่เคยฟื้นตัว ยืนอยู่บนเส้นเดียวกับโลกได้เลย  ซึ่งสะท้อนถึงโครงสร้างสะกิดของไทยกำลังอ่อนแออุตสาหกรรมของประเทศล้าหลังไม่สามารถฟื้นตัวได้เหมือนประเทศอื่น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่เป็นวงจรที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแสดงให้เห็นว่าหากปราศจากปัจจัยเชิงบวกที่ได้รับอนิสงค์จากการเมืองภายนอกเราแทบไม่เคยเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยลำแข้งของเราเอง  และในวันที่โลกมีแต่ปัจจัยเชิงลบซัดเข้ามาหาประเทศไทยเราก็รับแรงกระแทกเหล่านั้นเข้าเต็มเต็มไม่ว่าจะเป็น โควิด-19 สงครามการค้าหรือปัญหาทุนเทาก็ตาม 

ขณะที่ดัชนีคอร์รัปชันของประเทศไทยก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 ถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี อยู่ในอันดับที่ 107 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ทั้งที่ไทยมีองค์กรอิสระคอยตรวจสอบแต่ดัชนีของไทยยังลดลงอย่างต่อเนื่อง  นั่นเป็นเพราะกลไกการตรวจสอบกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากกว่าการปกป้องเงินภาษีของประชาชน 

นายณัฐพงศ์ จึงตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญแบบนี้หรือจะทำให้ประเทศพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยกเครื่องใหม่ 

นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะต้องการรัฐบาลที่มีความโปร่งใสมีประสิทธิภาพและมีความชอบธรรมยึดโยงกับประชาชนขณะที่บรรดาคณะรัฐมนตรีถูกแต่งตั้งมาจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไม่ได้มาจากการจัดสรรโควตาการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง เราต้องการรัฐบาลที่มีความชอบธรรมสะท้อนเจตจำนงของประชาชนกล้าที่จะปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศวางยุทธศาสตร์ชาติที่ปรับเปลี่ยนได้ไปตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ติดล็อคกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่คสช. เป็นคนเขียน 

เราต้องการรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตมากกว่าการสร้างตึกตัดถนนและขุดคลองสร้างงานคุณภาพให้กับทุกคนต้องการรัฐบาลที่เข้ามายกระดับรายได้  ทุกห่วงโซ่ในระบบอุปทานของไทยต้องได้รับการยกระดับใหม่ 

เราต้องการระบบถ่วงดุลตรวจสอบที่เป็นอิสระยึดโยงกับประชาชนเป็นระบบที่ไม่ได้ผลัดกันเกาหลังและถูกนำมาใช้เป็นอาวุธทางการเมืองแต่เป็นระบบที่ใช้ตรวจสอบการใช้อำนาจโดยมิชอบและตรวจสอบการใช้ภาษีของประชาชนประเทศไทยที่ติดเครื่องยนต์ใหม่แบบนี้จำเป็นที่จะต้องที่จะต้องเริ่มต้นจากการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อทำให้ไทยสามารถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างเต็มกำลัง 

“นี่คือเหตุผลที่พรรคประชาชนมุ่งมั่นที่จะเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และยอมโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี  ด้วยข้อตกลงที่ปรากฏอยู่ใน MOA และการทำหน้าที่ของพวกเรา4 เดือนต่อจากนี้ ทั้งตนนายกรัฐมนตรีและเพื่อนสมาชิกในวันนี้จะเป็นสิ่งที่ประชาชนใช้ตัดสินพวกเราในวันหน้า ดังนั้นสิ่งที่พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ช่วงสี่เดือนต่อจากนี้ในสภาวะรัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายค้านเสียงข้างมากก็คือ 

ประการที่หนึ่งการเปิดเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายในสี่เดือนนี้เราต้องผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 / 1 ให้แล้วเสร็จก่อนการยุบสภาโดยที่มาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องมีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้กรอบคำวินิจฉัย ใช้ของศาลรัฐธรรมนูญ 

ประการที่สองในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราสามารถผลักดันกฎหมายได้จำนวนมากทั้งสามและวาระหนึ่งได้ถึง 11 ชุดครอบคลุมทางด้านการเมืองเศรษฐกิจและสังคมคุณภาพชีวิตไม่ว่าจะเป็นกฎหมายกระจายอำนาจการแข่งขันและการค้า  กฎหมายแก้หนี้ล้มละลายสมัครใจ  คุ้มครองแรงงาน  ควบคุมมลพิษ ศาลทหาร และการนิรโทษกรรมที่ดินให้กับประชาชน  

ประการที่สามในช่วงสี่เดือนนี้รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางด้านเศรษฐกิจคุณภาพชีวิตความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติรวมถึงปัญหาที่ตกค้างมาจากรัฐบาลชุดก่อน 

และประการที่สี่ตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านจะยังคงทำหน้าที่ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่เพราะพรรคประชาชนไม่ได้ใช้เสียงของพวกเราโหวตให้กับนายอนุทินเพื่อให้รัฐบาลเอาอำนาจมาใช้โดยมิชอบหรือเพื่อสนับสนุนการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีความเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีหรือเพื่ออนุญาตให้รัฐบาลเข้าไปแทรงการดำเนินงานคดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขากระโดง หรือฮั้ว ส.ว.และการตรวจสอบคดีทุจริตรัฐบาลที่ผ่านมา ตนและพรรคประชาชนใช้เสียงของพวกเราเพื่อมุ่งหวังให้สี่เดือนต่อจากนี้เป็นโอกาสที่สำคัญในการเปิดประตูสู่อนาคตใหม่ของประเทศเมื่อทุกคนหลับตาลงนึกถึงหน้าลูกหน้าหลานของทุกคนพวกเขาเป็นลูกหลานไทยรุ่นแรกที่เดินเข้าคูหาเลือกตั้งแล้วตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา ตั้งแต่วันที่เกิดจนถึงวันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ในระบบการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยปราศจากการปฏิวัติรัฐประหาร ประเทศไทยจะได้พุ่งพยานไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องไม่ใช่การใช้เสียงของพวกเรา เพื่อปิดประตูแล้วทำให้ชีวิตลูกหลานติดอยู่ในรูปติดในระบบการเมืองแบบที่คนทุกรุ่นที่อยู่ในยุคนี้กำลังเสื่อมศรัทธา 

นายณัฐพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายฝากถึงนายอนุทินว่า “สิ่งที่พวกเรา อยากเห็นจากนายกรัฐมนตรีจะไม่ใช่แค่การที่ท่านต้องเคารพต่อข้อตกลงที่ทำไว้กับพรรคประชาชน แต่ตนอยากเห็นนายกเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมและเคารพต่อประชาชนผู้ที่เป็นเจ้าของประเทศ และผู้ที่ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศนี้”

Advertisement

แชร์
"ณัฐพงษ์" ชี้วันนี้เป็นหมุดหมายแรกของรบ. 4 เดือน ลั่นจะตรวจสอบเต็มที่