Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กต.กัมพูชา ยันไทยไร้สิทธิ์ไล่ชาวเขมรหนี

กต.กัมพูชา ยันไทยไร้สิทธิ์ไล่ชาวเขมรหนี

24 ก.ย. 68
09:50 น.
แชร์

“ฮุนเซน” แชร์แถลงการณ์กต.กัมพูชา ยันไทยไร้สิทธิ์ไล่ชาวเขมรหนี ชี้อยู่กันมานาน ก่อน MOU 43 ลั่นหากชาวบ้านจะสู้ทหารไทยก็ชอบธรรมแล้วปกป้องทรัพย์สินตัวเอง

วันที่ 24 ก.น.2568 สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แชร์เอกสารแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ตอบโต้ต่อคำกล่าวอ้างของประเทศไทยที่ว่าชาวบ้านเปรยจันแห่งกัมพูชาได้บุกรุกเข้าสู่ดินแดนไทยเพื่อจัดการประท้วง

ในเอกสารระบุว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2025 โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทย ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า ชาวบ้านเปรยจันแห่งกัมพูชาได้บุกรุกเข้าสู่ดินแดนไทย เพื่อจัดการประท้วง ซึ่งกระตุ้นให้ประเทศไทยบังคับใช้กฎหมายของตน กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งกัมพูชาจึงจำเป็นต้องตอบโต้ต่อคำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดดังต่อไปนี้

ประการแรก ประเทศไทยไม่สามารถอ้างสิทธิ์ในอธิปไตยหรือบังคับใช้กฎหมายกับชุมชนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการปักปันเขตแดน แม้จะมีการตกลงกันให้งดเว้นกิจกรรมที่ยั่วยุทั้งสองฝ่ายก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายไทยโดยมิชอบในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญคือต้องเน้นย้ำว่าชุมชนเปรยจัน, โอ’เบยจัน, จังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มานานแล้ว ก่อนที่จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU 2000) ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ตาม MOU นี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาสถานะเดิมจนกว่างานปักปันเขตแดนจะแล้วเสร็จ ข้อกำหนดในเอกสารอ้างอิงปี 2003 ระบุว่างานปักปันเขตแดนจะประกอบด้วยห้าขั้นตอนเพื่อให้แล้วเสร็จ

ประการที่สอง การประท้วงโดยชาวบ้านกัมพูชาเป็นเพียงการตอบโต้ต่อการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินของพวกเขา และการที่ลวดหนามถูกนำมาล้อมหมู่บ้านและสิ่งกีดขวางถูกนำมาปิดกั้นทางเข้าบ้านและไร่นาของพวกเขา นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเปิดเผยว่าทีมงานทางเทคนิคของทั้งสองประเทศได้ตกลงกันในเรื่องพิกัดเขตแดน 43 แต่ไม่ได้ตกลงเรื่องพิกัดเขตแดน 42 ซึ่งเป็นพิกัดที่ชาวบ้านเปรยจันตั้งอยู่ ดังนั้น การแสดงข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดซึ่งแสดงเส้นแบ่งเขตแดนที่ยื่นออกไปจากพิกัดเขตแดน 43 ไปยังพิกัดเขตแดน 42 เพื่อใช้เป็นข้ออ้างว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในดินแดนไทยจึงไม่ถูกต้อง

ประการที่สาม แม้จะมีการแสดงเส้นตรงที่บิดเบือนข้อมูลในอินโฟกราฟิกที่แสดงโดยฝ่ายไทย แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนชาติไทยได้บุกรุกและยึดครองพื้นที่ทำไร่นาหลายเฮกตาร์ที่ตั้งอยู่บนฝั่งกัมพูชาของชายแดน ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของประเด็นชายแดนในส่วนนี้ กัมพูชาจึงได้เรียกร้องให้แก้ไขข้อพิพาทนี้ผ่านคณะกรรมาธิการชายแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศ แทนที่จะพยายามบังคับใช้กฎหมายและอธิปไตยด้วยการบังคับขับไล่ชาวบ้านกัมพูชา

ประการที่สี่ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าระลึกว่า ภายใต้กรอบของ MOU 2000 กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการหลายครั้งต่อฝ่ายไทย เพื่อขอให้มีการแก้ไขอย่างถูกต้องในพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาของชายแดนถูกละเมิด แต่ก็ไม่เป็นผล ความตึงเครียดในปัจจุบันเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องส่งเสริมให้ JBC ให้ความสำคัญและเร่งรัดการดำเนินการปักปันเขตแดนในส่วนนี้ พร้อมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับการดำเนินงานของ JBC ตาม MOU 2000

ประการที่ห้า กัมพูชายืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงต่อข้อตกลงหยุดยิงตามที่บันทึกไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมทั่วไปกัมพูชา-ไทยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม และการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาคเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 กัมพูชาหวังว่าประเทศไทยจะยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงด้วยความเชื่อมั่นที่ดี โดยหยุดแผนการที่จะขับไล่ครอบครัวชาวกัมพูชาหลายร้อยครอบครัวออกจากบ้านเรือนและที่ดินที่พวกเขาอาศัยมานานหลายทศวรรษ และอนุญาตให้ผู้ที่ถูกขับไล่กลับไปยังบ้านและที่ดินของตนได้ในขณะที่รอคอยการดำเนินการปักปันเขตแดนโดย JBC ให้แล้วเสร็จ

รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชามุ่งมั่นที่จะแสวงหาทางออกที่สันติสำหรับข้อพิพาทชายแดนทั้งหมดกับประเทศไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ผ่านมาตรการที่สันติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ยืนหยัดในจุดยืนที่มีหลักการว่าชายแดนจะต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง

พนมเปญ, 23 กันยายน 2025

Advertisement

แชร์
กต.กัมพูชา ยันไทยไร้สิทธิ์ไล่ชาวเขมรหนี