แม้การประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียนได้ปิดฉากลงแต่ยังมีควันหลง เกิดขึ้น หลังฝ่ายกัมพูชามีการจัดทีมสื่อเพื่อมาทำเฟคนิวส์โดยเฉพาะ ซึ่งในขณะที่มีการประชุมในคณะต่างๆและการกล่าวแถลงการณ์ของผู้นำไทย จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา คอยถ่ายคลิปบันทึกภาพคณะผู้แทนไทย ทั้งตัว สส. สว. ฝ่ายเลขา ไม่เว้นแม้กระทั่งสื่อมวลชนไทยที่ร่วมคณะ และนำไปตัดต่อ เผยแพร่ในสื่อในประเทศกัมพูชา จนฝ่ายเลขาต้องออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า
"ถ้าทางโน้นมี มาลี แซ่หลอก ทางนี้ก็มี มาลัยไม่เฟค แหละ"
เขาได้แอบถ่ายคลิปขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐสภาไทยกำลังปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนคณะผู้แทนไทย นำไปเผยแพร่ทางทีวีและสื่อสังคมโดยมีถ้อยความที่บิดเบือนว่า
นี่เหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ? วิ่งวุ่นไปทั่วห้องประชุม!
ฝ่ายไทยดูเหมือนจะตกใจและสับสนจนอยู่ไม่สุข รีบหยิบโทรศัพท์โทรออกกันให้วุ่นทั้งห้องประชุม หลังจากที่ประธานรัฐสภาเปิดเผยความจริงต่อผู้นำรัฐสภาอาเซียนและผู้นำระดับโลกว่า ไทยได้รุกรานกัมพูชาหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ในที่ประชุม AIPA (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly) ที่ประเทศมาเลเซีย“
จึงอยากจะเล่าเบื้องหลังให้ฟังว่า เมื่อวาน เขาได้ฟ้องกับ ฝ่ายเลขา AIPA ว่าเขาไม่ได้รับ ความเป็นส่วนตัวเพราะว่าสื่อไทยเอารูปของหัวหน้าคณะของเขาไปเผยแพร่ในขณะที่กำลังกุมขมับ แต่ว่ารูปที่เค้าเอามาลงประกอบนั้นเป็นรูปหัวหน้าคณะที่กำลังกล่าวถ้อยแถลงธรรมดา ข้อเท็จจริงคือนักข่าวของเรามีภารกิจติดตามข่าวคณะก็ยุ่งมากพอแล้วจะเอาเวลาไหนไปคุกคามเขา ต่อมา เขาตอบโต้โดยได้เผยแพร่คลิปการปฏิบัติหน้าที่ของคณะฝ่ายเลขานุการของไทยที่กำลังประสานงานกับหัวหน้าคณะเพื่อที่จะเลือกว่าเราจะชี้แจงอย่างไรอันเป็นภารกิจปกติของผู้ที่เตรียมการมาอย่างดี
ซึ่งการอัดคลิปนั้น เป็นการบันทึกภาพของรองเลขาธิการสภาผู้ราษฎรและน้องฝ่ายเลขาที่กำลังคุยโทรศัพท์กัน พร้อมกับการเดินเอกสารขึ้นไปให้ท่านหัวหน้าคณะของเรา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีข้อแตกต่างกันคือภาพถ่ายของหัวหน้าคณะของเขาอาจมีความเป็นไปได้ที่จะถูกถ่ายภาพได้เนื่องจากว่าท่านเป็นผู้กล่าวถ้อยแถลง และนั่งอยู่บนเวที แต่ในขณะที่มีการแอบถ่ายรูปรองเลขาธิการสภาผู้แทนและเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านล่างอย่างจงใจพร้อมตัดต่อให้เหมือนเราวิ่งวุ่นทั้งที่ไม่ได้เกิดต่อเนื่องเช่นนั้น และเอาไปลงสื่อต่างๆและทีวีโจมตีว่าเราไม่มืออาชีพ การกระทำเช่นนี้เป็นการไม่สมควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเพราะพวกเราเป็นฝ่ายสนับสนุน ไม่ได้เป็นผู้กล่าวที่จะถูกสื่อจับจ้องถ่ายรูปได้อย่างเช่นหัวหน้าคณะของเขา นอกจากนี้ จนท ของเขายังขาดวุฒิภาวะและแสดงความไม่เป็นมืออาชีพด้วยการใช้ห้องประสานงานออนไลน์ในการลงรูปต่อว่าในประเด็นดังกล่าวจนถูกฝ่ายเลขาไอป้าตักเตือนว่าห้องนั้นใช้ในการสื่อสารเรื่องงานเท่านั้น
จริงๆแล้วเรามีความเป็นมืออาชีพ ไม่เคยใช้วิธีไม่สะอาด ส่งข่าวลวง แต่ทว่าเราเตรียมตัวอย่างดี เราคาดการณ์ว่าจะต้องมีการพาดพิงเราในถ้อยแถลงการณ์แน่ๆ เพียงแต่ไม่ทราบว่าจะหนักเบาแค่ไหน เอกสารในมือหัวหน้าคณะเราเป็นเวอร์ชั่นที่เบาและประนีประนอมที่สุด ซึ่งฝ่ายเลขาจะต้องประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์และดำเนินการอย่างเหมาะสมแก่สถานการณ์ขณะนั้นต่อหัวหน้าคณะ
เรามีความเชื่อในการทูตเชิงรัฐสภาและหวังอย่างยิ่งที่จะเหลือ พื้นที่เล็กๆเฉกเช่น AIPA และภาคนิติบัญญัติไว้เป็นเวทีที่เราพอจะหารือกันได้อย่างแตกต่างจากเวทีอื่นในฐานะผู้แทนประชาชน ในฐานะเพื่อนบ้านรั้วติดกัน เรามีความเป็นมืออาชีพและเตรียมการอย่างรอบคอบ รอบด้าน ไว้ล่วงหน้า เราไม่เคยตื่นตระหนกหรือตกใจ เพราะเรามั่นใจว่าเราเตรียมการไว้อย่างดีแล้ว เราเพียงแค่เสียดายที่’เขา‘ไม่ต้องการทางเดินอื่นใดนอกเหนือจากการประจันหน้าอย่างจงใจ
ในระดับ ขรก ประจำ เราได้เสนอให้มีการพบปะและหารืออย่างฉันท์มิตร แต่ เขาปฏิเสธที่จะพบและหารือกันอย่างสุภาพชน แสนเสียดายโอกาสดีๆที่อาจนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเช่นนี้
" In the midst of crisis lies a great opportunity too bad that you just turned it down "
Advertisement