พรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมเลือกตั้ง เตรียมความพร้อม สรรหาผู้สมัคร สส.
พรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมเลือกตั้ง เตรียมความพร้อม สรรหาผู้สมัคร สส. ด้านผู้ใหญ่ในพรรค แห่ ให้กำลังใจ "แพทองธาร" ให้ผ่านวิกฤติ เชื่อยังเข้มแข็ง
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส. บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุม เนื่องจากวันนี้การประชุมพรรคประจำสัปดาห์ โดยวันนี้ก่อนที่จะมีการประชุมสส.มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคคณะใหญ่ มึ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม ผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนให้กำลังใจกับ หัวหน้าพรรคให้ผ่านเหตุการณ์วันนี้ไปให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นาย ดนุพร เผยต่อว่า ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร มีกำลังใจที่ดีและเข้มแข็ง โดยใช้เวลาพูดคุยในเรื่องนี้ประมาณ 5 นาทีจากนั้นก็เข้าสู่ระเบียบวาระของกรรมการบริหารพรรค โดยสรุปในการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องของการนับถอยหลังการเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้
ซึ่งวันนี้ได้มีการนำคำสั่งเก่งการจัดตั้ง คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร สส.รวมถึงในการนำปฏิทินมากางตารางดูว่าจะเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อไหร่ จึงเป็นการประกาศเดินหน้าสู่การเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยพรรคเพื่อไทยมีพร้อมหาผู้สมัครได้ทัน อย่างช้าที่สุดก็คาดว่าจะภายในกลางเดือนต.ค คาดว่าพรรคเพื่อไทย จะมีผู้สมัครครบ 400 เขต และ ที่เราได้เขตใดหรือจังหวัดใดก็ตาม ที่เราได้มีผู้สมัครแล้ว เพิ่มเติมจากสส.เก่านั้น ก็จะเดินหน้า ทำงานทันที และจะมีการเชิญผู้ใหญ่ภายในพรรคเข้ามารวมสมองเพื่อคิดนโยบายต่อจากนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง
สำหรับประเด็น สส. ที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ได้ทำการโหวต นอกมติของพรรค ซึ่งได้มีการพูดกันอย่างกว้างขวาง และพรรคเพื่อไทยได้มีคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นตอนนี้เราได้ส่งเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมการชุดนี้เป็นผู้พิจารณาเพราะว่าจะได้ชัดเจนในเรื่องของการที่ไปโหวตขัดมติของพรรคเพื่อไทยดังนั้นเรื่องนี้จะพยามพิจารณาให้เร็วที่สุด
โดยหลังจากประชุมกรรมการบริหารพรรคเสร็จ ก็มีการประชุม สส. เวลา 15:00 น. โดยนางสาวแพทองธาร หัวหน้าพรรค ได้เข้าเป็นการประธานการประชุม และมีนายภูมิธรรม เวชยชัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายประเสริฐจันทรรวงทอง และผู้บริหารชุดปัจจุบัน และชุดที่ผ่านมาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคและเป็นการพูดให้กำลังใจหัวหน้าพรรคในเรื่องคำตัดสินศาลฎีกาเมื่อเช้าที่ผ่านมา
ซึ่งหัวหน้าพรรคได้กำชับ สส. ของพรรคเพื่อไทยทุกคนในการประชุมสภาฯในวันพุธ - วันพฤหัสบดี ว่ามีกฎหมายสำคัญหลายฉบับที่ สส. ของพรรคที่เป็นผู้เสนอ และเป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะนำเข้าสู่สภาฯ เพื่อผ่านในวาระต่างๆ จึงได้กำชับให้ สส. อยู่ร่วมกันเป็นองค์ประชุมเพื่อทำหน้าที่ สส. ของพี่น้องประชาชนอย่างแข็งแรง และในช่วงนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านคณะรัฐมนตรี จึงคิดว่ากระทู้ต่างๆ ในสภาฯก็จะยังไม่มี และกฎหมายต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในสภา ก็จะรีบนำกฎหมายต่างๆ เหล่านี้ผ่านออกไปสู่ขั้นตอนต่อไปอย่างเร็วที่สุด
นายดนุพร กล่าวต่อว่า เรื่องของ สส.ที่โหวตสวนมติของพรรค ตนบอกว่าเรื่องนี้ได้โยนให้กรรมการวินัยของพรรคเป็นผู้ที่ดูในเรื่องของกฎระเบียบของพรรคว่ามีอะไรบ้างและเราควรจะทำอย่างไร และเชื่อว่าในเรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันในห้องประชุมแน่นอน โดยจะมีมาตรการต่างๆในการที่จะลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน ในส่วนของ สส.เขต 110 กว่าคน ต้องบอกว่าพรรคไม่สามารถไปบังคับให้ใครลงในนามพรรคได้ถ้าเขาไม่อยากลง และถ้ามีการยุบสภา ในกฎระเบียบของรัฐธรรมนูญก็มีการกำหนดไว้แล้วว่าต้องย้ายพรรคได้ภายในกี่วันเมื่อยุบสภาฯแล้วจะมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน
ดังนั้นพรรคมีการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ส่วนใครจะลงสมัครหรือเปลี่ยนใจไปลงสมัครในพรรคอื่นซึ่งนั้น ต้องย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าวันนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้แสดงความพร้อมต่อ สส.ในที่ประชุมว่าวันนี้เราประกาศไว้แล้วว่าเราพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งโดยทางด้านของนางสาวแพทองธารพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการที่จะนำพาพรรคเพื่อไทยไปสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล 2 ปี ไม่มีนโยบายที่ทำสำเร็จ แล้วจะใช้นโยบายอะไรหาเสียงต่อจากนี้นั้น นายดนุพร ระบุว่า หลังจากที่มีรัฐบาลใหม่ และนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว นโยบายต่างๆ ที่ผ่านสภาแล้ว อย่างเช่นนโยบายหวยเกษียณ จะดำเนินการต่อหรือไม่ แต่กฎหมายผ่านสภาฯไปแล้ว ก็มีประมวลกฎหมายที่บังคับอยู่แล้ว ก็ต้องพูดคุยว่าเขาจะทำต่อหรือไม่ รวมถึง 20 บาทตลอดสายที่เราผ่านวาระสภาฯไปแล้ว เราต้องจับตาดูต่อไปว่ากฎหมายเหล่านี้จะถูกนำไปปฏิบัติตามหรือไม่ หากนโยบายอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แลถรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ดำเนินการ เราก็มองว่าเป็นนโยบายที่มีประโยชน์ต่อประชาชน เราก็จะนำกลับมาทำใหม่ และต้องขอดูนโยบายของเราที่ผ่านสภาฯแล้วด้วยว่า รัฐบาลใหม่ได้นำไปปรับใช้มากแค่ไหน
Advertisement
