จากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ เริ่มนับโทษใหม่ให้ครบ 1 ปี และนำตัวเข้าไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที
ล่าสุดผู้สื่อข่าวไปคุยกับอาจารย์ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ โดยบอกว่าเรื่องคดีชั้น 14 จริงๆคดีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน นายใหญ่กลับมาเมืองไทย แล้วก็ได้รับการลดโทษ แต่วันที่เข้าอยู่ในเรือนจำ ยังไม่ทันข้ามวันก็ออกมาอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วก็อยู่ยาวไปจนถึงวันที่ได้รับสิทธิ์พักโทษ เรื่องนี้มีอยู่แค่นี้ ซึ่งสร้างความสงสัยว่านายใหญ่ติดคุกจริงหรือเปล่า ต่อมาก็มีผู้ไปร้องศาล ตอนแรกศาลไม่รับ แต่ร้องไปร้องมาศาลท่านเกิดสงสัยขึ้นมาว่า ที่ร้องมีข้อน่าสงสัยหรือไม่ จึงมีไต่สวนเอง และมีการไต่สวนกันเรื่อยมา ทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และวันนี้ศาลท่านก็อ่านคำวินิจฉัยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ติดคุกจริง แล้วใครบ้างที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คนที่เป็นเอฟซีนายใหญ่ ก็อาจจะบอกว่านายใหญ่เป็นนักโทษในตอนนั้น จะเป็นคนสั่งการให้อำนวยความสะดวกได้อย่างไร ส่วนคนที่ไม่ใช่เอฟซีนายใหญ่ ก็บอกต้องกลับไปติดคุกอีกรอบนึง แต่สำหรับตน ตนไม่ได้สนใจข่าวนี้ เพราะว่าเมื่อรัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมา นายใหญ่อยู่ต่างประเทศด้วย ก็เห็นมีฤทธิ์มีเดชตั้งเยอะ แล้ววันนี้อยู่ในเมืองไทย ยังไงฤทธิ์เดชก็เหลือแหล่ ไม่ได้ลดลง นายใหญ่ไม่ได้สิ้นฤทธิ์ง่ายๆ
หากวันนี้นายใหญ่รอด พรรคเพื่อไทยก็ต้องใช้ประโยชน์จากการรอดของนายใหญ่ เพื่อที่จะไปต่อลมหายใจในทางการเมือง ซึ่งตอนนี้เรียกได้ว่าติดเตียงแทบจะหมดลมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันไม่รอด ก็ต้องสร้างสตอรี่ใหม่ เป็นผู้ที่เคารพกระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ที่โดนรังแก ซึ่งประสบการณ์ในการสร้างสตอรี่แบบนี้ พรรคเพื่อไทยก็มีประสบการณ์สูง เพราะฉะนั้นแล้วในมุมของตน จะรอดหรือว่าไม่รอด ยังไงเสียพรรคเพื่อไทยก็ใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ไปต่อท่อหายใจตัวเอง ซึ่งมีระยะเวลาในการต่อท่อหายใจไม่นาน เหมือนที่ตนบอก สุดท้ายก็ตายอยู่ดี เพียงแต่ตอนนี้เป็นระยะที่ประคับประคอง
วันนี้หากนายใหญ่ติดคุกจริง ตนมองว่าไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่สื่อมวลชนไปสนใจโผ ครม.ของนายกฯหนู ตนทราบมาว่าเครือข่ายของนายใหญ่ที่เป็นระดับวีไอพีของเครือข่าย มีการเข้าไปดูที่ทางในเรือนจำกันเรียบร้อยแล้ว ถ้านายใหญ่จะไม่รอด เขาก็ไปดูกันมาหมดแล้ว นายใหญ่ไม่ได้โง่เขาทำธุรกิจมาเยอะ ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเหนือความคาดหมาย เป็นเรื่องปกติ หากจะติดกำไรอีเอ็ม หรือจะไปอยู่ที่บ้าน ก็ต้องเข้าไปอยู่เรือนจำก่อนหรือถูกไม่ ไม่เห็นจะมีอะไรประหลาด ตอนแรกตนมองว่ารอด เพราะพูดมาโดยตลอดว่า ยังไม่เห็นว่าใครจะมีหลักฐานว่านายใหญ่ไปสั่งการ อีกประเด็นต้องบอกว่าการบริหารโทษ เป็นอำนาจของราช จริงๆถ้าการบริหารโทษแล้ว ด้วยอำนาจแบบนี้ จะทำให้เอื้อประโยชน์ได้ คุณก็ต้องไปแก้กฎเกณฑ์ ไม่ใช่ว่าเอาคนที่เขาปฏิบัติตามกฎระเบียบนั้น เอาไปติดคุกอีกรอบนึง แต่อย่างไรก็ตาม ต่อให้ไม่รอด ก็ไม่เดือดร้อนอะไร อยู่ดูไบมา 2 ครั้ง พรรคเพื่อไทยก็มีฤทธิ์ทางการเมือง รอบนี้ต่อให้ไม่รอด ไปอยู่ในคุก ถ้าอยู่บ้านก็สั่งเป็ดปักกิ่งมากิน จะมีอะไรลำบาก
ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้น ตนเองมาว่าใกล้ถึงจุดจบแล้ว ตนก็ไม่ได้มองต่างจากทุกคน ว่าพรรคเพื่อไทยแตกสลายจริงๆ แต่ตรให้รายละเอียดที่เพิ่มขึ้นว่า คะแนนที่เขาสร้างมาไม่ได้จะหายไปแบบสูญสลายภายในพริบตา ในความเป็นจริงทุกพรรคการเมือง ขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้วก็ค่อยๆตกต่ำ ไม่มีพรรคไหนที่ตกลงแบบต่ำเตี้ยติดดินภายในการเลือกตั้งครั้งเดียว วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นขาลงของพรรคเพื่อไทยจริงๆ แต่ยังไงก็ตามการที่ชะตากรรมของนายใหญ่ต่อให้วันนี้ติดคุกเขาก็ต้องใช้สตอรี่ นี้ให้เป็นประโยชน์ในการลงอย่างเป็นขั้นบันได และตนยืนยันว่า ตราบใดที่เรายังไม่ได้ยินนายใหญ่พูดอย่างเป็นทางการ ว่าวางมือทางการเมือง ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ต้องได้ยินจากปาก
อาจารย์ธรพร บอกว่า เขาสะสมคะแนนนิยมมา 11,000,000 ล้านเสียง การถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินด้วยข้อหาที่ไม่รักษาเกียรติของชาติ โคตรร้ายแรง ตนคิดว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนโดนร้ายแรงเท่านี้มาก่อน ในการจัดตั้งรัฐบาลในรอบหน้า เพื่อไทยก็ยังถือว่ายังมียังมีพื้นที่ในการเดินต่อทางการเมือง จะพลิกเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านอะไรก็ตาม แต่ในรอบต่อไป พรรคเพื่อไทยก็จะถึงเข้าอวสานจริงๆวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลาย
Advertisement