พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ที่ประชุม ได้เห็นชอบ เพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ ไทย เสนอ 4 ประเด็น คือ
1. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ดำเนินการร่วมมือกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมโดยพิจารณาให้หารือร่วมกันในการประชุม gbc ครั้งต่อไป
2.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ร่วมมือประสานงานกันแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ใช้เวทีมหาดไทยกัมพูชา หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และเห็นควรให้เสนอหารือร่วมกัน gbc ครั้งต่อไป
3.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ให้มีกลไกแก้ปัญหา ด้วยการจัดตั้งชุดประสานงาน Coordination Group (CG) และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกรองรับคณะ RBC ในการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่
4.ในการแก้ไขปัญหาการละเมิด MOU43 ฝ่ายกัมพูชา ขอให้ใช้กลไกอื่น ในการหารือ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจ ของ RBC โดยฝ่ายไทยยืนยันเสนอ ให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญ และได้แจ้งเจตนารมย์ที่ชัดเจน ของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ย้ำว่า เรื่องนี้ กัมพูชา ขอไปใช้กลไก JBC หรือคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทยกัมพูชา แทน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ต้องเสนอผ่านกลไก GBC
พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ประธานคณะทำงานฝ่ายไทยฯ ระบุว่า ข้อตกลงได้ทำเสร็จสิ้นเมื่อคืนช่วงเวลา 02:00 น. โดยผลสรุปคือร่วมกันจัดทำข้อตกลงในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากสองชาติเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา
ประเด็นที่สอง คือการปราบปรามสแกรมเมอร์ ในพื้นที่คลองลึก-ปอยเปต ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในข้อตกลงที่เกิดขึ้น ซึ่งกัมพูชายอมรับ และเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชาเข้าร่วมในการแก้ไขปัญหาตรงนี้
“สองประเด็นนี้ เราเคยเสนอในการประชุมจีบีซีแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ซึ่งในอาร์บีซีครั้งนี้ของกองทัพภาคที่1 ได้หารือร่วมกันและได้ข้อตกลงนี้มา”
ประเด็นที่สามได้ข้อตกลงร่วมกันว่าในพื้นที่กองทัพภาคที่1และภูมิภาคที่5ของกัมพูชาจะมีการจัดตั้งชุดประสานงานผฯหรือซีจี แตกย่อยไปถึงคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น หรือ TBCเพื่อเป็นกลไกรองรับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
เนื่องจากปัญหาแต่ละพื้นที่มีไปถระดับอำเภอชายแดน เราได้เสนอว่าควรจะมีคณะทำงานชุดที่เล็กลงเพื่อแก้ไขปัญหาในทันทีเพราะวาระการประชุม อาร์บีซีจะมีขึ้นปีละครั้ง ชุดประสานงานดังกล่าวจะได้หารือได้ในพื้นที่ในช่วง1-2เดือนได้เลยหากเกิดปัญหาที่ชายแดนของสองประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่อ่อนไหว อย่างตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ คลองหาด
โดยคณะทำงานชุดเล็กจะประกอบไปด้วยทหาร พลเรือน ผู้ว่าฯ ถ้าปัญหาเกิดตรงไหนก็จะมีคณะทำงานตรงนั้นซึ่งในรายละเอียดจะมีการสรุปกันต่อไปซึ่งระหว่างนี้จะใช้การประสานงานระหว่างผูผู้บังคับการกรมฯไปก่อนเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ในส่วนของข้อสี่เป็นประเด็นที่ฝ่ายไทยเสนอและกัมพูชาไม่รับก็คือเรื่องของการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน สื่อถึงสิ่งที่เราได้นำคณะไอโอทีลงพื้นที่จริงในวันนี้ ซึ่งการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนที่เราจะต้องอยู่ร่วมกันสองประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมามีเรื่องของพื้นที่อ้างสิทธิ์ หลักหมุด-หลักเขต ซึ่งการที่เราเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาก็มุ่งหวังให้การแก้ไขปัญหาเกิดขึ้น อย่างเป็นรูปธรรมแต่ทางกัมพูชาไม่รับในข้อนี้จึงไม่เกิดขึ้นในข้อตกลง
แต่เมื่อสักครู่ในระหว่างพิธีปิด ผบ.ภูมิภาคทหารที่5ได้พูดในเรื่องนี้ โดยนำเสนอให้ไปคุยกันในคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทยกัมพูชาหรือ เจบีซี ทางแม่ทัพภาคที่1ได้ตอบว่าสำหรับกรณีนี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง เพราะได้มีการเสนอแล้วเขาไม่รับ แต่ตอนพิธีปิดให้เสนอไปใช้เวทีเจบีซี ทางเราจึงขอให้ไปคุยกัน ในเวทีจีบีซีครั้งหน้าต่อไป
Advertisement