Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"มาริษ" เชิญรัฐภาคีออตตาวา ประชุมร่วมหน่วยงานไทย-กองทัพ ศุกร์นี้

"มาริษ" เชิญรัฐภาคีออตตาวา ประชุมร่วมหน่วยงานไทย-กองทัพ ศุกร์นี้

13 ส.ค. 68
10:55 น.
แชร์

กต.ขยับ! "มาริษ" เชิญรัฐภาคีออตตาวา ประชุมร่วมหน่วยงานไทย-กองทัพ ศุกร์นี้ พร้อมเก็บหลักฐาน ให้คณะทำงานได้ดูข้อมูลจริงจากพื้นที่

(13 ส.ค. 2568) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการตอบโต้กัมพูชาหลังทหารเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2568 ว่า ทหารไทยได้สูญเสียอวัยวะและบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับทางกองทัพ และยื่นประท้วงกับทางกัมพูชาไปแล้ว เราไม่พอใจอย่างรุนแรงที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงที่คุยกันไว้ในการประชุม GBC และอนุสัญญาออตตาวา รวมถึง เราได้ส่งหนังสือไปถึงเลขาธิการสหประชาชาติ ได้ชี้แจงรายละเอียด การกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ โดยการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นอกจากนี้ยังมีหนังสือไปถึง ทูตญี่ปุ่นประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานรัฐภาคีสัญญาออตตาวา เพื่อให้เร่งดำเนินการในสิ่งที่เราได้ขอรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวาไปแล้ว

"ผมได้พูดโดยตรงกับเลขาธิการสหประชาชาติตอนอยู่ที่นิวยอร์กก่อนที่จะมีการปะทะได้พูดกับเลขาธิการสหประชาชาติโดยตรง เพื่อยืนยันและชี้แจงให้เลขาธิการสหประชาชาติได้เข้าใจถึงการกระทำที่ละเมิดของกัมพูชา ตอนนั้นทหารไทยได้เหยียบกับระเบิดไปแล้วสองครั้ง ซึ่งผมเรียนท่านว่า ในอนาคตหากกัมพูชายังไม่หยุดการกระทำเช่นนี้ ผมจะขอให้ใช้กลไกของ อนุสัญญาออตตาวา ผ่านเลขาธิการสหประชาขาติ เพื่อที่จะไต่สวนความผิด รวมถึงการกระทำของกัมพูชาในเรื่องของการใช้ระเบิดสังหารบุคคล" นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ กล่าวต่อว่า เราพยามผลักดันในเรื่องนี้ ได้ใช้กลไกทุกอย่างของอนุสัญญาออตตาวา ได้มีหนังสือกลับมาขอเอกสารเพิ่มเติม เมื่อวานนี้ทั้งวันตนได้มีการพูดคุยกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้เรียนให้ทราบว่า ตนมีความเป็นห่วงและไม่สามารถรับได้กับการกระทำที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการใช้ระเบิดสังหารบุคคลและทหารไทยต้องประสบกับความเสียหายในตรงนี้ และขอให้ช่วยผลักดันให้ใช้กลไกของ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งตนขอยืนยันว่าจะผลักดันในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ กระทรวงการต่างประเทศก็ดำเนินการทุกอย่างอย่างเต็มที่ ผ่านกระบวนการทั้งที่นิวยอร์กและนครเจนีวา เพื่อให้ได้ผลโดยเร็ว เพื่อให้มีการไต่สวนและพิจารณาการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา

ส่วนของความร่วมมือในภูมิภาคตนได้ใช้เวลาทั้งวันคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย และได้คุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ สิ่งสำคัญที่เราต้องพยายามผลักดันต่อไป ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ คือขอให้อาเซียน หรือกรอบความร่วมมือของภูมิภาคกดดันให้กัมพูชามาร่วมมือกับประเทศไทย ในการที่จะแก้ไขปัญหาการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล บริเวณชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินแดนของประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่กระทรวงต่างประเทศยึดถือมาโดยตลอด และชี้แจงให้ทั่วโลกตระหนักว่า กัมพูชาละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย โดยการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และเกิดความเสียหาย

"เราไม่ได้ต้องการเพียงแค่ประณาม อย่างที่เราดำเนินการมาโดยตลอด แต่เราต้องการเห็นความจริงใจของกัมพูชาที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ร่วมกับเราโดยการมีการร่วมมือ ทั้งในกรอบภูมิภาค กรอบของโลก ในกรอบของภูมิภาคเรามีความร่วมมือของศูนย์ปฏิบัติการจัดการทุ่นระเบิด ซึ่งในกัมพูชาก็มีศูนย์นี้เช่นกัน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด" นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ ย้ำว่า ต้องใช้กรอบของอาเซียนกดดันให้กัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อแสดงถึงความจริงใจให้เห็นว่า พร้อมที่จะมีความร่วมมือกับเรา

"เมื่อเราประท้วง กัมพูชาจะใช้ว่าเป็นระเบิดเก่า และฝังอยู่ในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงฝังระเบิดในดินแดนของเขา" นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ ระบุว่า ความพยายามในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด มีมาตั้งแต่สมัย นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีจนมาถึงสมัย น.l.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกเรื่องนี้ หารือกับทางกัมพูชา ในระดับนโยบายได้พูดคุยมาโดยตลอด แต่กัมพูชาบ่ายเบี่ยง จึงขอเรียกร้องอีกครั้งว่า ขอให้กัมพูชาแสดงความจริงใจที่จะแก้ปัญหานี้ร่วมกันกับประเทศไทย

หลายคนคงจำได้ว่าในการประชุม GBC หนึ่งในคณะของฝ่ายไทย ได้หยิบยกขึ้นมาคือ เก็บกู้ระเบิดซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิเสธ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า ตนได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียไปแล้ว ขอให้ประเทศทั้งหลายที่เป็นมิตรประเทศอาเซียนร่วมกันกดดัน เรามีความจริงใจและพร้อมเพราะเรามีทั้งเทคโนโลยี และองค์ความรู้เรื่องในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ถึงแม้ว่าตนจะอยู่ที่ต่างประเทศ แต่จะมีสรุปเข้ามา จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย กับ ทหาร กองทัพ และประเทศสมาชิก ที่ให้ความสำคัญ กับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ต้องขอบคุณประเทศญี่ปุ่น ที่ให้ความช่วยเหลือทั้งกัมพูชาและไทย ในเรื่องเทคโนโลยีองค์ความรู้ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพราะฉะนั้นเราจะเชิญประเทศที่ช่วยเหลือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ประเทศอาเซียน รวมทั้งรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา มาร่วมประชุมด้วย ว่าไทยจะมีขั้นตอนต่อไปอย่างไร ตนได้มอบนโยบายไปแล้วว่าให้ร่วมกันพูดคุย เพื่อผลักดันให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ ในการแก้ไขปัญหากับไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีการลงไปในพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งให้คณะทำงานทั้งหมดได้รับทราบข้อมูล จากผู้ปฏิบัติในสนามอย่างแท้จริง

นายมาริษ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจนของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน

อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึง ยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกันไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูตญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคีดำเนินตามมาตรการอนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน ข้อมูลทั้งหลายเพื่อให้เราสามารถใช้ในกรอบของการขับเคลื่อนผลักดันกัมพูชาให้มากยิ่งขึ้นในการเก็บกู้วัตถุระเบิดต่อไป

สำหรับการประชุมในวันศุกร์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า กัมพูชายังไม่เข้าร่วม โดยยังคงปฏิเสธ ซึ่งตรงนี้จะเป็นเรื่องที่เราประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเชิญรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ทีแมค และเชิญผู้แทนจากกองทัพมาร่วมประชุม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความพยายามที่เราจะกดดันให้กัมพูชาเข้ามาร่วมมือ ตรงนี้ท่าทีของเราชัดเจนและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าการทำงานของเรามีความโปร่งใส เป็นไปตามกรอบความตกลงของยูเอ็น ในเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้นทางกัมพูชาก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องแสดงท่าทีแสดงความจริงใจที่จะเข้ามาร่วมมือกับประเทศไทย โดยเรากดดันทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุม แม่โขง-ล้านช้าง ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันนี้ด้วยว่า จะใช้โอกาสที่ได้พบปะหารือทวิภาคี กับประเทศสมาชิกที่ไปร่วมประชุม ชี้แจงให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และตลอดระยะเวลาในช่วงที่ผ่านมาก็ได้ชี้แจง ตลอด ไม่ใช่เฉพาะช่วงที่มีเหตุทหารเหยียบกับระเบิด ซึ่งที่ผ่านมาได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศที่เป็นพันธมิตรกับไทยหลายคน ตนได้มีข้อความติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทุกประเทศเหล่านี้อธิบายและอัปเดตความคืบหน้าต่างๆ ถึงสถานการณ์ ว่ากัมพูชาไม่ได้แสดงความจริงใจ โดยทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้เป็นเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนและทำให้มิตรประเทศของไทยทั้งหลาย ในโลกได้เข้าใจประเทศไทย ซึ่งขอย้ำว่า การทำงานของ รัฐบาลกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพเป็นเนื้อหนึ่งเดียวกัน

โดยจะเห็นว่าในช่วงที่ตนเดินทางร่วมประชุมสหประชาชาติ ก็ได้มีการรณรงค์ในเรื่องของการแสดงความชอบธรรมของเราที่จะใช้การป้องกันตนเอง ซึ่งตรงนี้ทำให้ทหารและกองทัพปฏิบัติการทางยุทธศาสตร์ของทหาร ได้อย่างสะดวกใจโดยไม่มีประเทศไหนประณาม หรือมีประเทศอื่นใดตำหนิการใช้อาวุธของประเทศ และหลายคนก็ไม่เห็นด้วยที่กัมพูชาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการโจมตีเป้าหมาย พลเรือน ดังนั้นขอเรียนว่านโยบายด้านการต่างประเทศและการทหารสอดรับมาประสานกันมาโดยตลอด ทำให้การดำเนินนโยบายต่างประเทศหรือการทูตประสบความสำเร็จด้วยการกดดันของฝ่ายทหารขณะเดียวกันทหารก็มีความสบายใจในการปฏิบัติการทางทหาร บนพื้นฐานว่าเราทำทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การตอบโต้ ที่เป็นไปตามบทบาทสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้นขอเรียนว่าประชาคมโลกเข้าใจประเทศไทย และทำให้เราไม่ถูกตำหนิใดๆ ทั้งสิ้นและต้องขอขอบคุณปฏิบัติการทางทหาร ที่ทำให้การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูตระหว่างประเทศประสบผลสำเร็จด้วยดี

Advertisement

แชร์
"มาริษ" เชิญรัฐภาคีออตตาวา ประชุมร่วมหน่วยงานไทย-กองทัพ ศุกร์นี้