นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางพบปะให้กำลังใจประชาชน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนพนมดงรักวิทยา ต.จึกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
โดยทันทีที่ นายภูมิธรรม เดินทางมาถึงได้สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่าในพื้นที่ถูก ระเบิดด้วยหรือไม่ พร้อมกับทักทายประชาชนบางส่วน ซึ่งยอมรับว่าไม่ได้อพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน แต่ได้ให้คนในครอบครัวออกจากบ้านเรือน ก่อนที่จะรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จากนายอำเภอพนมดงรัก
โดยนายภูมิธรรม กล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันดูแลรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ชุดชรบ.ของหมู่บ้านทั้ง 600 กว่าคน ซึ่งวันนี้ตนและคณะทุกคนอยากมาให้กำลังใจทุกคนจริงๆ ซึ่งได้มีการประเมินร่วมกับกองทัพ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ยังห่วงใยประชาชน และเมื่อสักครู่เดินมามีคนบอกไม่ยอมออกจากบ้าน ช่วยกันดูแลบ้านร่วมกับชุดชรบ.นี่คือจิตใจที่เสียสละ แต่ไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งถือเป็นเกียรติยศต่อชีวิต และเป็นบุญคุณของประเทศที่ประชาชนช่วยกันทำงาน
เมื่อสักครู่ได้ประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นการบรรลุขั้นที่ 2 ทำให้หยุดยิงได้ แต่ก็คงต้องติดตามดูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก็เชื่อมั่นเพราะมีการเชิญประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนรวมไปถึงประเทศในกลุ่มอาเซียนมาเป็นจักขีพยานว่าเราได้ตกลงกันเช่นใด ขณะเดียวกันยอมรับว่า มีการปรึกษากองทัพภาคที่ 2 เราต้องขอบคุณหน่วยทหารทั้งหมดที่เป็นแนวหน้า รบป้องกันประเทศป้องกันอธิปไตยของประเทศอย่างไม่ต้องห่วงพะวงหลัง เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงหลักที่รับผิดชอบพิทักษ์แนวหลัง สร้างความสบายใจและดูแลประชาชนในช่วงที่ต้องประสบภัยต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกันต้องขอบคุณ ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดปลัดจังหวัด ที่สั่งการอย่างรวดเร็ว ให้เกิดการดูแลอย่างดียิ่ง แม้จะมีข้อบกพร่องบ้าง เราก็พยายามจะแก้ไขปัญหา ยกเว้นถ้าเสียหายบกพร่องมาก เราก็จะพิจารณาไป แต่โดยส่วนรวม ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ให้ความเอาใจใส่ และถือประชาชนเป็นหัวใจสำคัญอย่างที่รัฐบาลได้สั่งการมา
เมื่อสักครู่ตนได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลพนมดงรักชื่นชมคุณหมอทั้ง 7 ท่านที่อยู่กับคนไข้จนวินาทีสุดท้ายจึงได้เคลื่อนผู้ป่วยที่มีอาการหนักออกจากโรงพยาบาลส่วนที่เหลือได้ไปอยู่ในหลุมหลบภัยและโรงพยาบาลก็มีผลกระทบ ทำให้ตัวอาคารเสียหาย แต่บุคลากรเหล่านั้นจะมีความเข้มแข็ง แม้บางคนไม่เคยภาวะกึ่งสงครามเช่นนี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีความห่วงใยมีการประสานงานกับทางทหารเรียบร้อยและคิดว่าขณะนี้ดูโดยภาพรวมพื้นที่ต่างๆนั้นอยู่ในความปลอดภัย แต่ก็มีบ้างอยู่นอกแนวเขตซึ่งกำลังดำเนินการกู้ เนื่องจากเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องจากการสู้รบ หากพื้นที่ใดทางหน่วยราชการเขาห้ามเข้าไป ก็ขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างเคร่งครัดเนื่องจากยังมีลูกระเบิดอยู่ 10 กว่าลูก ซึ่งยังไม่ได้กู้เนื่องจากอยู่ใกล้บริเวณชายแดนมากเกินไปหากเกิดเสียงระเบิดอาจเกิดการเข้าใจผิด ว่าเกิดการยิงและอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงต้องรอให้เข้าสู่สถานการณ์ปกติวันนี้ก่อนแต่ได้มีการมาร์คจุดไว้แล้วขออย่าเป็นห่วง
ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลมีความห่วงใย รัฐบาลมีการแก้ไขระเบียบเนื่องจากอยู่ในภาวะกึ่งสงคราม โดยมีการปรับเงินเยียวยา สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและประชาชน หน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่สิ้นสุด จะต้องดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ตนเข้าใจดีบางคนอาจไม่เคยเจอสงครามเมื่อปี 2554 เมื่อเจอเสียงปืนเสียงแล้วเก็บกดความรู้สึกเป็นอย่างมากตนเคยเผชิญมา ตนรู้สภาพแบบนั้น มันรุนแรงและทำร้ายจิตใจทำลายความรู้สึกที่ดีๆในใจเราไปมากน้อยเพียงใด โดยสาธารณสุขจะเข้ามาดูแลทั้งหมด
ขณะที่ชรบ.กระทรวงมหาดไทยรับดูแลอย่างเต็มที่ และเงินช่วยเหลือ ทราบมาว่าไม่ได้มีเงินตอบแทน แต่มาทำด้วยจิตใจที่เสียสละ โดยในวันอังคารหน้า หากไม่มีอะไรผิดพลาดตนจะนำประเด็นเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาค่าตอบแทน เราซาบซึ้งในความเสียสละ ได้แต่ดูแลท่านให้ดีที่สุด หลังจากนี้เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลให้กำลังใจเยียวยากัน หากมีอะไรที่นอกเหนือจากที่พูดไปและสิ่งที่ต้องแก้ไขก็ต้องเต็มที่
นายภูมิธรรม ย้ำว่า เรายึดมั่นในอธิปไตยของชาติ เพราะฉะนั้นข้าราชการทุกหน่วย ทุกส่วน พร้อมที่จะทำงานอย่างเข้มแข็งจริงจังแล้วหวังผลสำเร็จให้ได้เกิดประโยชน์กับประชาชนทุกคนที่ได้มากที่สุด ความเข้มแข็งความเอาจริงเอาจังของพวกเราทุกคน คือชีวิตคือประโยชน์ และคือสิ่งที่ประชาชนและทหารหาญ หน่วยอาสาสมัครทั้งหมด จะได้นั่นคือ การที่เราจะได้ใจประชาชน ขอฝากกำลังใจต่อประชาชนและความชื่นชมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลของประเทศทุกคนทุกหน่วย ขอบคุณอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยงานและให้กำลังใจประชาชนรัฐบาล จะดูแลท่านอย่างดีที่สุดอย่างสุดความสามารถ อะไรที่เป็นอุปสรรคปัญหาของให้บอก เราคือมนุษย์สร้างกฎ เพื่อมาดูแลตน คงไม่อยู่นิ่งถ้ามีกฎที่เป็นอุปสรรคก็แก้ได้ขอให้นำมาเสนอ
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า การเดินทางลงพื้นที่เก็บหลักฐาน เพื่อให้เห็นว่า พลเมืองไทยถูกละเมิดจากรัฐบาลกัมพูชา หากดูจากโรงเรียน โรงพยาบาล ก็คิดว่าเป็นปัญหาที่เราพูดคือความจริง ไม่ได้พูดโฆษณาชวนเชื่อแล้วมาทำลายเขา
Advertisement