วันที่ 7 ส.ค. 68 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม หลังจากเสร็จสิ้นวาระกระทู้ถามสดแล้วเสร็จ ได้พักการประชุม เพื่อให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และวิปฝ่ายค้าน หารือต่อประเด็นการเลื่อนระเบียบวาระการเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งว่างลง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น เมื่อกลับมาประชุม นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เสนอให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมคือการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ขึ้นมาพิจารณา แต่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือว่าอยากให้พิจารณาญัตติด่วน เพื่อหารือต่อประเด็นความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วย ซึ่งการขอเลื่อนญัตติ เพื่อเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ฝ่ายค้านไม่คัดค้าน หากว่า สส.ฝั่งรัฐบาลยืนยันในความพร้อม
ด้านนายวัชระพล อภิปรายว่า สส.รัฐบาลมีความพร้อม และไม่ขัดข้องที่จะพิจารณาญัตติด่วนที่ฝ่ายค้านเสนอ ทำให้นายกรวีร์ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความพร้อม ตนขอเสนอให้นับองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นบรรยากาศการประชุมเริ่มวุ่นวาย เนื่องจากมีการทักท้วงการเสนอนับองค์ประชุมของพรรคฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันนายวัชระพล ฐานะวิปรัฐบาล เสนอให้นับองค์ประชุมผ่านการขานชื่อ ทำให้ นายกรวีร์ เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมผ่านการเสียบบัตร ทำให้นายฉลาด กล่าวขึ้นว่าตนขอใช้อำนาจวินิจฉัยให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ
จากนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นท้วงว่า ตามข้อบังคับการประชุม ประธานในที่ประชุมไม่สามารถวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวได้เพราะมีผู้เสนอญัตติขัดแย้งกัน ดังนั้นต้องลงมติเพื่อตัดสิน ระหว่างนั้นมี สส.รัฐบาลทักท้วงว่าการเสนอญัตติของนายภราดร ไม่ถือเป็นญัตติ เพราะไม่มีการเสนอ ทำให้ นายภราดร ชิงจังหวะเสนอญัตติตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล อภิปรายว่าประธานได้วินิจฉัยให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อขอให้ดำเนินการตามคำวินิจฉัย เพราะการเสนอญัตติให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตรนั้นเกิดขึ้นภายหลังจากที่ประธานได้วินิจฉัยไปแล้ว
ทำให้นายฉลาด ดำเนินการตามที่นายวิสุทธิ์ อภิปรายทันที ทำให้นายภราดร ทักท้วงว่า “หากประธานวินิจฉัยแบบนี้ โดยไม่ฟังเหตุฟังผล ผมไม่สามารถอยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมได้ ผมขอวอล์กเอาต์”
จากนั้นนายภราดร พร้อมด้วย สส.พรรคภูมิใจไทย วอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุม
เริ่มนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ซึ่งต้องมีตัวแทนจากพรรคการเมืองเป็นกรรมการ แต่พรรคประชาชน โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ชี้แจงว่าเรื่องนี้เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กันมาก่อน ฉะนั้นพรรคขอไม่ส่งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการนับคะแนน
ขณะที่ สส.พรรคฝ่ายค้าน อยู่ในห้องประชุมบางส่วนแต่ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการขานชื่อแสดงตนตามตัวอักษรเสร็จ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ในฐานะประธานการประชุม ได้รายงานผลปรากฎว่า มีผู้มาแสดงตน 248 คน ถือว่าครบองค์ประชุม ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 2 เสียง
จากนั้นนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1
ประธานที่ประชุม จึงกล่าวว่า เมื่อไม่มีผู้เสนอแข่งขันก็ถือว่านายไชยา ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1
Advertisement