"เพื่อไทย" สดุดีดวงวิญญาณทหารกล้า ผู้สละชีวิตปกป้องอธิปไตยไทย จากการรุกรานของกัมพูชา ยืนยันไม่ละทิ้งประชาชน จะผลักดันให้ความขัดแย้งกลับสู่โต๊ะเจรจา
วันที่ 3 ส.ค. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประจำสัปดาห์ในหลายประเด็นโดยประเด็นแรกเรื่องการความตึงเครียดที่เกิดการปะทะตามแนวชายแดนไทนกัมพูชาเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์จะคลี่คลายลงจากความพยายามของรัฐบาลไทย ผ่านการผลักดันเจรจาให้เกิดการหยุดปะทะ
แต่สิ่งที่ย้อนกลับมาไม่ได้คือการสูญเสีย จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 การปะทะครั้งนี้ ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 17 รายบาดเจ็บ 38 ราย แบ่งเป็นสาหัส 52 ราย ปานกลาง 13 รายและบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 13 รายรวมเป็น 55 ราย
ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเพียงแผ่นดินไทยที่ต้องสละชีวิตไปถึง 15 นาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 196 ราย
" พรรคเพื่อไทยขอสดุดีดวงวิญญาณของทหารกล้าทุกนาย ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละเพื่อเป็นการปกป้องอธิปไตยของไทยจากการรุกราน และขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกคน ที่ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ " นางสาวขัตติยากล่าว
นางสาวขัตติยา กล่าวว่า ทุกชีวิตที่สูญเสียไม่ควรเกิดขึ้นและเป็นสิ่งเตือนใจให้ทุกภาคส่วนหยุดยั้งแรงปะทะครั้งนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมานางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ของ ส.อ.จิรายุส อินทุมาน สังกัด กองพันจู่โจม หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ซึ่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ และเสียสละ ในเหตุปะทะระหว่างไทย – กัมพูชา ในสมรภูมิภูยอดมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ และได้มอบเงิน 1 ล้านบาทให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะไม่ละทิ้งประชาชนจะทำทุกทางเพื่อผลักดันให้ความขัดแย้งครั้งนี้กลับสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการเพื่อให้ความสูญเสียเช่นนี้ต้องเกิดขึ้นอีกในอนาคต ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะไม่ละเลยต่ออธิปไตยของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีของประเทศไทย
สำหรับการเยียวยาวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทันทีผ่าน 5 กองทุนหลัก 1.กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้เสียชีวิตรายละ 1,000,000 บาท ทุพพลภาพรายละ 700,000 บาท บาดเจ็บสาหัส 200,000 บาท บาดเจ็บมาก 100,000 บาท และบาดเจ็บเล็กน้อย 50,000 บาท
2.กองทุนยุติธรรมของกระทรวงยุติธรรม 3.เงินเยียวยาจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 4.เงินจากการช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย 5.การช่วยเหลืออื่นๆ จากกระทรวงพลังงานและกระทรวงแรงงาน
สำหรับกระทรวงการคลัง มีการออกมาตรการในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ คือพักชำระหนี้ถึงสิ้นปี 68 และให้สินเชื่อดอกดอกเบี้ยต่ำ
สำหรับทหารที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ ธอส. ได้ยกหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยผู้มีสิทธิ์คือ บิดา มารดา หรือคู่สมรส ด้านการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ได้ออกมาตรการพักหนี้ ปล่อยสินเชื่อใหม่อัตราดอกเบี้ยต่ำ ขยายเวลาชำระ และค้ำประกันวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมัน กระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานการช่วยเหลือทันที ธนาคารกรุงไทยเจรจาลดดอกเบี้ยหรือยกเว้นดอกเบี้ยชั่วคราว
ส่วนบริษัทประกันภัยอยู่ระหว่างดำเนินการการจ่ายสินไหม กรมธุรกิจพลังงานและพาณิชย์จังหวัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายระบบจ่ายน้ำมัน สำนักงานแรงงานจังหวัดแจ้งสิทธิ์การเยียวยาให้กับลูกจ้าง และผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ราย ได้ดำเนินการยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ส่งทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่โยธาและงานผังเมือง กลุ่มธนาคารของรัฐให้สำรวจซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านเรือนและกิจการของประชาชนที่เสียหายอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการประชุม ครม. นัดพิเศษที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาพิเศษเพิ่มเติม
ขณะที่วิกฤตอุทกภัยในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดน่านที่ได้รับผลกระทบหนักจากพายุโซนร้อนวิภา รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชนพร้อมประเมินความเสียหายและออกมาตรการเยียวยาต่อเนื่อง กระทรวงการคลังสั่งให้ธนาคารของรัฐพักหนี้และปล่อยสินเชื่อใหม่ ช่วยเหลือฟื้นฟูกิจการของเกษตรกรและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเร่งด่วน กรมธนารักษ์ให้ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุสำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ และแพร่ พร้อมขยายวงเงินทดลองราชการให้กับ ปภ. ช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำป่า ดินโคลนถล่ม วาตภัย และ น้ำท่วมฉับพลัน
รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ทิ้งประชาชนแม้แต่คนเดียว และจะเร่งเดินหน้าฟื้นฟูเยียวยาป้องกันรอบด้าน เพื่อประชาชนผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง
ทั้งนี้นางสาวขัตติยา ยังกล่าวว่า อยากขอความร่วมมือสื่อมวลชน เพจ อินฟูลเอนเซอร์ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะนำเสนอ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีพยายามทำลายความสามัคคีของคนในชาติและขอความร่วมมือจากประชาชนให้คอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐเป็นหลัก และช่วยกันตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก่อนที่จะส่งต่อ พร้อมขอให้มั่นใจว่าเราไม่เพียงแต่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังสร้างโครงสร้างใหม่ ให้ประเทศแข็งแรงในระยะยาว
Advertisement