Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
หวยเกษียณใกล้เส้นชัย! ร่างกฎหมายจ่อเข้าสภาฯ 23 ก.ค.นี้

หวยเกษียณใกล้เส้นชัย! ร่างกฎหมายจ่อเข้าสภาฯ 23 ก.ค.นี้

19 ก.ค. 68
15:43 น.
แชร์

หวยเกษียณใกล้เส้นชัย! กอช. จัดงาน 10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออมกับหวยเกษียณ ร่างกฎหมายจ่อเข้าสภาฯ ถกวาระ 2-3 วันที่ 23 ก.ค.นี้​ 

​วันที่ 19 ก.ค. 68 ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดงาน “10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ” โดยมี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ทัณฑสถานหญิงกลาง, ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.), กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), TrueMoney, AIS และ ShopeePay ที่มาร่วมออกบูธ เพื่อให้คำแนะนำด้านการออมและการวางแผนทางการเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างวินัยการออม และเตรียมพร้อมให้คนไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง 

​นายเผ่าภูมิ ได้กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยว่า ในยุคที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งการเข้าสู่สังคมสูงวัย ความผันผวนของระบบการเงินของโลกและการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นการสร้างวินัยการออมในระดับครัวเรือนจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว สำหรับการจัดงาน “10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ” จึงนับเป็นก้าวใหม่ที่ กอช.  ได้นำเสนอ “หวยเกษียณ” ในฐานะนวัตกรรมทางการเงินภายใต้แนวคิด “ซื้อหวยเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมที่คนไทยมีอยู่แล้ว เพื่อเติมเต็มให้คนไทยได้ออมเงินกันถ้วนหน้าผ่าน “หวยเกษียณ”  

​นาย เผ่าภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายสนับสนุนการออมที่เข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่ง “หวยเกษียณ” จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยผลักดันให้สามารถเพิ่มเงินออมของประชาชนทุกคน โดยจะร่วมกันขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือระหว่าง กอช. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ ปัจจุบันร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้ กอช. มีหน้าที่และอำนาจในการออกและจำหน่าย “หวยเกษียณ” เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนออมเงิน ผ่านการลุ้นรางวัล และสร้างระบบการออมที่ยั่งยืนรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย 

​สำหรับ “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” เป็น สลากขูดดิจิทัล ราคาฉบับละ 50 บาท เปิดจำหน่ายให้ผู้มีสัญชาติไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้สูงสุดเดือนละ 3,000 บาท (60 ฉบับ) ผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” โดยออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท (5 รางวัล) รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท (10,000 รางวัล) ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ทันที โดยเงินซื้อสลากทุกบาทจะถูกสะสมไว้เป็นเงินออม และผู้ซื้อสสลากจะได้รับเงินออม พร้อมผลประโยชน์เป็นก้อนในครั้งเดียว 4 กรณีดังนี้ 1.อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ 2.อายุมากกว่า 60 ปี จะได้รับเงินคืนทั้งหมด เมื่อครบ 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อสลาก และสามารถซื้อต่อไปได้คราวละ 5 ปี 3.ทุพพลภาพ, เสียสัญชาติไทย และ4.เสียชีวิต คืนเงินให้แก่บุคคลที่ระบุไว้ หรือทายาท 

​ด้าน น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวถึงบทบาทและผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาว่า กอช. ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกการออม เพื่อสังคมให้แก่แรงงานนอกระบบ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มประชาชนทั่วไป อายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี ที่ไม่มีสวัสดิการบำเหน็จบำนาญจากรัฐ เพื่อสร้างหลักประกันรายได้ยามชราภาพ กอช. เปิดดำเนินงานเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 58 มีสมาชิกเริ่มต้นเพียง 300,000 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กอช. ได้ขยายช่องทางการออมที่สะดวกทันสมัย และสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 65 กอช. ขับเคลื่อน “วาระการออมแห่งชาติ” ผลักดันการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเพดานการออมจากปีละ 13,200 บาท เป็นสูงสุด 30,000 บาท และเพิ่มเงินสมทบจากรัฐจากไม่เกิน 1,200 บาท เป็น 1,800 บาทต่อปี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนออมได้มากขึ้นและได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นทำให้ปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.7 ล้านคน และมีทรัพย์สินกองทุนรวมกว่า 15,152 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 68) 

​“กอช. ยังขยายโครงการสร้างวินัยการออมให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผ่านความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ตลอดจนขยายเครือข่ายการออมสู่แรงงานนอกระบบ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขังในโครงการ “สร้างชีวิตใหม่” เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงโอกาสการออมอย่างแท้จริง และยังได้ขับเคลื่อนงานผ่านกระทรวงมหาดไทย

ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ และยังสร้างตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ 

​นอกจากนี้ เรายังได้ขยายช่องทางการรับสมัครและส่งเงินออม ผ่านธนาคารกรุงไทย, ออมสิน, ธอส., ธกส., ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เดินหน้ายกระดับการให้บริการ เพิ่มช่องทางการออมที่สะดวก รวดเร็ว เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกคน โดยสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินออมผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” และพันธมิตรดิจิทัลชั้นนำอย่าง ทรูมันนี่, MyAIS และ ShopeePay ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ที่ทุกการออมทำได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส”นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว​

สำหรับในวาระครบรอบ 10 ปีนี้ น.ส.จารุลักษณ์ กล่าวว่า กอช. ยังเปิดตัว “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการออมรูปแบบใหม่ โดยรัฐบาลมุ่งหวังให้ “หวยเกษียณ” เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการขยายโอกาสการออมให้กับคนไทยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม กอช. จะเดินหน้ายกระดับบริการต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบการออมที่ยั่งยืนและครอบคลุมทุกกลุ่มประชาชน สร้างอนาคตที่มั่นคงให้คนไทย ก้าวข้ามความเสี่ยงของสังคมสูงวัยอย่างมั่นใจ 

​ขณะที่ นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงการเข้าสู่สังคมสูงวัยและความมั่นคงทางรายได้หลังเกษียณของประเทศไทยว่า จากข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า รายได้หลังเกษียณที่เพียงพอควรอยู่ที่อย่างน้อย 50–60% ของรายได้ก่อนเกษียณ แต่แรงงานในระบบของไทยมีรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยเพียง 41% ขณะที่แรงงานนอกระบบมีรายได้หลังเกษียณต่ำกว่า 5% และมีรายได้ไม่แน่นอน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ภาครัฐต้องหามาตรการเพิ่มแรงจูงใจในการออมเพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ในยามเกษียณให้กับประชาชนทุกกลุ่ม 

​“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะส่งผลต่อโครงสร้างรายได้ รายจ่ายของภาครัฐ และอาจกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการลดลงของสัดส่วนประชากรวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลง ขณะที่รัฐต้องใช้งบประมาณในการดูแลสวัสดิการด้านบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ทั้งเบี้ยยังชีพ เบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ และเงินสมทบกองทุนการออมเพื่อการเกษียณต่างๆ โดยในปี 2567 ภาครัฐใช้งบประมาณด้านสวัสดิการบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุรวม 500.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปี 2557 ที่ใช้งบประมาณ 253.4 ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของงบประมาณ” นายวโรทัย กล่าว 

​นาย วโรทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว ภาครัฐจึงสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออมเงินด้วยตนเองผ่าน “หวยเกษียณ” ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้หลังเกษียณ และลดภาระงบประมาณของรัฐ โดยโครงการหวยเกษียณ ใช้งบประมาณเงินรางวัลปีละ 780 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มเงินออมเพื่อการเกษียณให้กับประเทศปีละ 13,000 ล้านบาท หรือทุก 1 ล้านบาทที่รัฐใช้เป็นเงินรางวัล จะช่วยเพิ่มเงินออมเพื่อการเกษียณได้ถึง 16.6 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้จะไม่เพียงแต่อยู่ในบัญชีเงินออม แต่จะถูกนำไปลงทุนต่อในตลาดทุน ทำให้มีเงินไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทำให้มีเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ ในประเทศ นำไปสู่การจ้างงาน และการกระจายรายได้สู่ประชาชน สุดท้ายแล้วไม่เพียงแต่ประชาชนได้ประโยชน์จากเงินออมของตัวเอง แต่ประเทศก็จะได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน

Advertisement

แชร์
หวยเกษียณใกล้เส้นชัย! ร่างกฎหมายจ่อเข้าสภาฯ 23 ก.ค.นี้